Tuesday, December 9, 2008

เมื่อบ้านมีทุกอย่าง.....และต้นคริสมาสแรกที่บ้าน

หลายสิบวันแล้วนะที่รสไม่ได้อัพเดทบล๊อก บางวันก้อยุ่งบางวันก้อว่างเหมือนเดิมค่า ขออัพเดทนิ๊ดหนึ่งค่ะ ตอนนี้บ้านก้อมีเฟอร์นิเจอครบทุกห้องแล้ว ทั้งห้องนอนใหญ ห้องรับแขก ห้องทานข้าวแล้วก้อห้องลูกชาย ทีแรกว่าจะเอารูปมาลงค่ะ แต่ขอเป็นส่วนตัวนิ๊ดหนึ่งค่ะ วันที่เฟอร์นิเจอร์มีครบมันทำให้บ้านดูรกขึ้น ฮ่าๆ หมายถึง บ้านดูของมากขึ้นน่ะค่ะ อิอิ

ตอนนี้สามีก้อกลับมาเมกาแล้วค่ะ แต่พักได้อาทิตย์เดียวก้อต้องไปอบรมที่ฮูสตั้นอีกแร่ะ แต่ตอนนี้บ้านมีครบทุกอย่างแล้วค่ะ ไม่ใช่แค่สิ่งของนะคะ แต่หมายถึงครอบครัวที่พร้อมหน้ากันน่ะค่ะ

สามีมาถึงอาทิตย์แรกก้อยุ่งๆกันนิดหนึ่งค่ะ แต่ก้อดีใจที่เค้าได้อยู่บ้านพักผ่อนหน่อย

สุดสัปดาห์ที่แล้วหนุ่มน้อยเคนนี่มาบ้านเป็นครั้งแรกค่ะ ดูลูกจะชอบค่ะ รสกะสามีไปรับลูกที่โรงเรียนแล้วก้อพากันไปซื้อของค่ะ ซื้อของกินแล้วก้อของตกแต่งต้นคริสมาสค่ะ ต้นแรกที่บ้านเราเลยนะคะ เสร็จจากซื้อของก้อไปซื้อต้นคริสมาสจริงค่ะ ต้นเบ่อเริ่มเลย ฮ่าๆ พอถึงบ้าน ลูกชายก้อหนุกหนานกับการจุดเตาผิงแล้วก้อจุดเทียนในบ้าน แล้วก้อช่วยกันตกแต่งต้นคริสมาสกันค่ะ

ตั้งต้นคริสมาสในบ้านค่ะ
Photobucket

สองหุนุ่มช่วยกันจัดไฟ
Photobucket

ใส่ลูกบอลสวยๆห้อยไป
Photobucket
Photobucket


ตกแต่งเสร็จแล้วค่ะ
Photobucket


วันต่อมาจากนั้น ตอนเช้ารสจะโชว์ห้องใต้ดินให้ลูกดู เปิดประตูห้องใต้ดินดูแล้วรสจะเป็นลมค่ะ เพราะน้ำท่วมห้องใต้ดิน ฝนตกหนักสองวันก่อน แล้วปั้มไม่ทำงาน ต้องรอสองวันแน่ะกว่าจะให้คนมาซ้อมได้เพราะมันตรงกะวันเสาร์อาทิตย์ช่างไม่ทำงาน เซ็ง!!! แต่สุดท้าก้อซ่อมได้ค่ะ นึกว่าต้องซื้อเครื่องน้ำร้อนใหม่แล้ว หน้าแห้งตั้งหลายวัน ฮ่าๆๆ

ปิดท้ายด้วยบรรยากาศที่บ้านตอนเช้าค่ะ
Photobucket

ป.ล มีเพื่อนบอกว่าบรรยากาศแบบนี้น่าเสียตัว ฮ่าๆๆๆ ฮ่ากันปายเรื่อย

See ya!!

Thursday, November 20, 2008

ของเล็กๆที่ใหญ่ๆ....

มาด้วยหัวข้อนี้แบบทำให้งง หมายความว่างัยฟะ ของเล็กๆที่ใหญ่ๆ ฮ่าๆๆๆๆ อย่าคิดลึกนะเคอะ มาเริ่มว่าด้วยกิจกรรมที่ทำวันนี้ค่ะ วันนี้นอนเป็นเต่าในที่นอนเกือบทั้งวันค่ะ มันหนาวข้างนอกนี่นา แถมไม่มีอะไรทำด้วยนอกจากคุยกะสามีสุดที่รักทั้งวันทั้งคืน แล้วก้อได้อีเมลจากแม่ว่าจะไปกินข้าวกันไหมวันนี้ ก้อโทรกลับค่ะ สรุปจะไปกินข้าวกันที่ร้านอาหารจีน (เจ้าเก่า)ประมาณชั่วโมงกว่าๆแม่กะเอ็ดดี้ก้อมาถึงค่ะ

นั่งรถไปหิวไป ทำไหมวันนี้ทางมันไกลกว่าทุกวันฟะ ฮ่าๆ พอถึงที่ร้าน ว้าวววว.....วันนี้วันขาปู!!!!! เสร็จนังรสแน่งานนี้ หุหุหุ หนุกหนานกันใหญ่เลยค่ะ ได้สอนวิธีกินขาปูให้แม่ด้วย ทั้งหนุกทั้งหร่อยค่า ขาปูใหญ่ๆจิ้มกะน้ำจิ้ม อืมมมม ว่าแล้วก้ออยากกินอีก

เอาล่ะมาเข้าเรื่องของเล็กๆที่ใหญ่ๆกันนะคะ มันหมายถึงของสิ่งเล็กๆที่มีความหมายเกินขนาดค่ะ ระหว่างทางกลับบ้าน แม่ให้ลองสวมแหวนของแม่สองวง ปรากฏว่าใส่ได้ทั้งสองวง แม่ให้เลือกว่าชอบวงไหน ก้อบอกว่าวงนี้ แล้วแม่ก้อบอกว่า "งั้นมันก้อเป็นของเธอแล้วจ้ะ"


เป็นความรู้สึกซาบซึ้งมากๆ มันมีความหมายมากมายมากกว่าแหวนวงหนึ่งมากๆจริงๆ รู้สึกขอบคุณแม่มากๆที่เมตตาเรานะ อะไรที่มาจากใจถึงจะเล็กขนาดเท่ามด มันก้อเป็นช้างสำหรับเรา ขอบคุณมากๆค่ะแม่

Wednesday, November 19, 2008

Winnsboro Park

วันนี้อยู่บ้านค่ะ ไมค์ เอ็ดดี้ จีน่า เวนเดลมาทานอาหารเทียงที่บ้าน วันนี้ทำผัดซีอิ้วค่ะ อาหร่อย อิอิ ก้อคุยกะสามีไปด้วยค่ะ สามีก้อยุ่งเรื่องงาน อย่างให้พูดเรื่องบริษัทที่ทำงานสามีเลยค่ะ ปรอทจะแตกโมโหมากๆ

หลังจากแก๊งส์กลับ ก้อทำความสะอาดครัวเล็กน้อย คุยกะสามีจนสามีไปนอน รสก้อทำยำวุ้นเส้นทาน แซบมากๆ ต้องรีบกินเพราะจะไปถ่ายรูปที่ปาร์คใกล้บ้านค่ะ ว่าจะไปมาหลายวันแล้วแต่ไม่มีโอกาสสักที วันนี้ได้วาระค่ะ เลยเอารถประจำตำแหน่งออกไปขับไปปาร์ค ฮ่าๆๆๆ

Photobucket


ลงเนินจากทางเข้า

Photobucket

Photobucket

น้ำพุ
Photobucket

ดอกไม้ยังสวยอยู่ค่ะถึงแม้จะหนาวแว้ว
Photobucket

มองขึ้นข้างบน

Photobucket

ต้นไม้ในปาร์คค่ะ
Photobucket
Photobucket
Photobucket

ใบไม้และลูกแดงๆ
Photobucket
Photobucket
Photobucket
Photobucket

สิ่งมีชีวิตที่ชื่อว่า เป็ด อิอิ
Photobucket

Photobucket

Photobucket
Photobucket

พอแสงเริ่มอ่อนลง อากาศมันก้อหนาววววววมากขึ้นค่ะ เลยต้องรับบึ่ง BM(X)กลับบ้าน แต่ก้อมาจอดตรงหน้าบ้านเพื่อนบ้านถ่ายรูปใบไม้บ้านเค้า ฮ่าๆๆๆ

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

กลับถึงบ้านเปิดน้ำร้อนแช่ในอ่าง สบายยยยย ไม่รู้ค่าไฟค่าแกสจะเท่าไหร่เดือนนี้ ฮ่าๆ

พ่ออเล็กส์กะจินนี่

18 Nov
วันนี้เหมือนจะไม่มีอารายมากมายทำค่ะ แต่มันหาได้เป็นเยี่ยงนั้นไม่ ฮ่าๆ คุยกะสามีแต่เช้า (ต่อเนื่องจากเมื่อคืน) วันนี้มีโปแกรมว่าเวนเดลจะพาไปธนาคารเพื่อเอาเชื่อเข้าบัญชีธนาคารสามีเรา พอเที่ยงเวนเดล ไมค์ จีน่า แก๊งเดิมก้อมาที่บ้านแล้วก้อไปกินข้าวที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยนที่ในทาวน์กัน (ร้านเดิมที่ไปทุกครั้ง) ก่อนออกไปกินข้าง อเล็กส์กับจินนี่ก้อโทรมาถามว่าว่างไปกินข้าวเย็นด้วยมั๊ย ก้อบอกว่าว่างค่ะ น้าน งานเข้าอีกแว้ว ฮ่าๆ


วันนี้หนาวมากๆๆค่ะ ลมด้วยอีกตะหาก บรื๋อๆๆๆ กินข้าวเที่ยงเสร็จก้อไปธนาคารกันค่ะ ต้องรอคุยกะ member service ต้ะงชั่วโมงเลย เพราะมีคนเข้าไปก่อน จนผู้จัดการสาขาต้องออกมาต้อนรับ เพราะดูหน้าช้านแล้วคงไม่ค่อยรับแขก ฮ่าๆ เอาย่อๆนะคะ สรุปยังใส่ชื่อเข้าบัญชีสามีไม่ได้ค่ะ เพราะผู้แทนโดยชอบธรรม ไม่สามารถทำได้เป็นหนึ่งในห้าข้อที่ทำไม่ได้คะ ตรูจะถอนมันออกมาหมดดีไหมจากธนาคารนี้เนี่ยะ แต่เราต้องใจเย็นค่ะ เพราะมันทำอาหารไม่ได้อยู่ดี ปลง....ฮ่าๆๆๆ
ออกจากธนาคารก้อไปซื้อของมาทำกับข้าวที่ Walmart ค่ะ พอกลับถึงบ้าน จะเอาถังขยะใหญ่ไปเก็บหลังบ้าน อเล็กส์กะจินนี่ก้อถึงพอดีเลย


ทักทายกันเสร็จก้อพาทัวร์บ้านค่ะ ทุกซอกทุกมุมเลย ฮ่าๆ ไม่นานเวนเดลก้อขอตัวกลับบ้านเพราะมีธุระ สักพักน้อยๆผ่านไปอเล็กซ์กะจินนี่ก้อพาขับรถไปทานข้าวในเมืองค่ะ ทีแรกกะจะพาไปทานที่ Texas Road House แต่ร้านนี้สงวนลิขสิทธ์ค่ะ สามีต้องพาไปกินเป็นคนแรก สรุปไปร้าน O’Charlie กันค่ะ เมนูที่สั่งวันนี้เป็น ปลาไซม่อนอบค่ะ กินไม่หมดใส่กล่องกลับบ้านเหมือนเดิม ฮ่าๆๆ
ระหว่างทางไปกลับและอยู่ที่ร้านก้อคุยและทำความรู้จักกับอีกฝ่ายหนึ่งครอบครัวสามีค่ะ ท่านใจดีเป็นกันเองกะรสมากๆค่ะ

สุดสัปดาห์แห่งเฟอร์นิเจอร์ ฮ่าๆ

15 nov
วันนี้เป็นวันยุ่งอีกวันค่ะ โปรแกรมของวันนี้คือไปดูเฟอร์นิเจอร์ที่ รูม ทู โก ใน Sandhill Village ค่ะ แต่แวะทานข้าวที่ร้านบุฟเฟ่จีน (อีกแล้ว) แต่คราวนี้ไปร้านใหม่ค่ะ แต่ว่าอาหารไม่ค่อยประทับใจโจ๋เท่าไหร่ค่ะ พอกินเสร็จก้อไป Sandhill กัน มัน เป็นศูนย์การค้าค่ะ แต่ว่าทำเป็นรูปแบบหมู่บ้าน คือจะไม่เป็นห้างค่ะ จะมี outlet ต่างๆเรียงรายกันเหมือนเป็นหมู่บ้านยังงัยยังงั้นค่ะ หญ่ายยยยโต มโหฬารมากๆค่ะ แม่ไม่ได้ไปทำงานด้วยวันนี้ก้อเลย เอ็ดดี้พาขับรถวนดู outlet ต่างๆจนสะใจ ฮ่าๆ
จากนั้นก้อไปที่ รูม ทู โก ตามโปรแกรมค่ะ ใช้เวลาในนั้นประมาณ 3 ชั่วโมง เดิน นั่ง นอน ลองเฟอร์นิเจอร์เค้าเกือบหมดทั้งร้านเลยก้อว่าได้ จน ได้แพคเกตเฟอร์นิเจอร์พร้อมราคาที่น่าสนใจเหลือเกิน ฮ่าๆ พนักงานบอกว่าให้สามีไปขอเครดิตออนไลน์ได้เลย เสร็จแล้วก้อเอาหมายเลขมาสั่งของทั้งหมดพรุ่งนี้ หุหุ เสร็จนังรสแน่
หลังจากนั้นก้อให้เอ็ดดี้พาไปร้านเอเชียซื้อของค่ะ เพราะไหนๆก้ออยู่ในเมืองแล้ว เลือกของเค้าอยู่นานจนเจ้าของร้านมาบอกว่าเด๋วจะปิดร้านแล้วนะ ฮ่าๆ แต่ก้อได้ของมาพอสมควรค่ะ แต่พวกของสดไม่ค่อยมีค่ะ ออกจากร้านเอเชียก้อบึ่งรถกลับบ้านกัน พอถึงบ้านก้อคุยกะแม่กะเอ็ดดี้สักแป๊บ แม่กะเอ็ดดี้ก้อกลับบ้าน ส่วนตัวเองก้อตามสูตรค่ะ โดดขึ้นเตียงหลับ แล้วก้อตื่นมาคุยกะสามีตามสเตป อิอิ


16 nov
วันนี้เป็นวันแห่งเฟอร์นิเจอร์อีกวันค่ะ แม่กะเอ็ดดี้มาตอนสายๆ ตอนเช้าทั้งหมดก้อหมดไปกะการเข้าเวปไซต์ของรูม ทู โหเพื่อทำเครติด แต่ยังงัยก้อไม่ได้ค่ะ เลยโทรหาพนักงานขายที่ร้านเมื่อวานนี้ อืม..ทีแรกก้อเย็นอยู่ค่ะ เค้าก้อบอกให้ใส่รหัสไปรษณีอื่น ก้อทำ แต่ยังงัยก้อทำไม่ได้ โทรกลับไป ก้อบอกเดี๋ยวให้เค้าเข้างานก่อนแล้วจะถามผู้จัดการให้ รอ แล้ว รอฮ่ะ ระหว่างที่รอก้อคุยกันว้าถ้าไม่ได้เครดิตจะจ่ายจำนวนหนึ่งซึ่งมากพอควรแลที่เหลือจะใช้เครดิต
นานพอควรไม่ได้มีใครโทรมาเลย แล้วแม่เลยโทรกลับไป เธอก้อรับสายและบอกว่ากำลังถามผู้จัดการอยู่ แม่บอกว่าถ้าได้ลูกสะใภ้ชั้นจะสั่งทั้งหมดที่ไปติดต่อไว้เมื่อวาน ทีนี้เธอเต้นเลยค่ะและบอกว่าขอเวลาสามสิบนาที รออีกแล้ว ฮ่าๆ ระหว่างที่รอก้อทำกับข้าวให้แม่กะเอ็ดดี้ทาน เป็นเนื้อผัดพริกเผากะต้มยำไก่ ทั้งอร่อยทั้งเช็ดเหงื่อกันไปเพราะมันเผ็ด

จากนั้นเธอก้อโทรมาบอกว่าเวปไซต์ที่สมัครเครดิตวันล่ม เอาเงินมามัดจำออเดอร์ก่อนก้อได้ หุหุ ตลกแล้วแม่คุณ สรุปไม่เอาแล้วคับ รูม ทู โก สาขานั้น พอกินเสร็จก้อไปแถว Harbison กันค่ะหาร้านขายเฟอร์นิเจอร์ ไปร้านหนึ่ง ไม่ถูกใจก๋ค่ะแถมแพงอีกต่างหาก ตลอนไปทั่ว แต่ก้อไม่เจอที่ถูกใจสักที เลยบอกเอ็ดดี้ลองไปรูม ทู โก สาขา Harbison ดูดีกว่าว่ามันจะเป็นงัย
เข้าไปก้อเจอพนักงานไวกลางคนคนหนึ่ง โอมายกอด มันช่างต่างกันเหลือหลาย เธอคนนี้ยังช่วยให้เรามีเครดิตขิงตัวเองด้วยตั้ง 2,500 เหรียญแน่ะ วันกะจะสั่งของโดยใช้เครดิตทั้งหมดแล้วก้อเงินสดด้วย ปรากฏว่าใช้เช็คของสามีไม่ได้ เพราะมันต้องเป็นชื่อเรา เอาละสิงานนี้หน้าเหี่ยวอีกแล้ว พนักงานเค้าก้อใจเย็นนะ เค้าบอกว่าเวปไซต์อ่ะไม่มีปัญหาอะไร ให้สามีเราขอเครดติออนไลน์ได้ แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาจัดการทั้งหมดทีเดียวเลย เค้าจะช่วยเต็มที่


อืม มีความพยายามในการช่วยเราสูงอย่างงี้กลับมาแน่นอน ฮ่าๆ พรุ่งนี้ก้อพรุ่งนี้ฟะ
ออกจากร้านก้อไปหาของกินค่ะ ไปกินบาบิคิวกัน ยังอิ่มอยู่หลาย ฮ่าๆ สรุปกินได้ไม่กี่คำไอ้ที่เหลือก้อต้องใส่กล่องกลับบ้านตามเคย
แม่กะเอ็ดดี้มาส่งที่บ้านแล้วก้อพากันกลับบ้านคะ หงอมกันทั้งหมดเลย นอนไม่ฝันเลยงานนี้


17 Nov
วุ่นวายแต่เช้าค่ะวันนี้เพราะอารายอีกล่ะ ก้อเครดิตนั่นล่ะค่ะ เอารหัสไปรณีย์เมืองในก้อไม่ได้ซักที หงุดหงิดสิคะ ได้เวลาศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ของร้านเปิด เราก้อโทรเลยค่ะ ได้ความว่า นอร์ทและเซ้าท์ แคโรไลน่า ยังไม่เปิดบริการเครดิตออนไลน์ของร้าน ฮ่วยแล้วมัยไม่บอกบนเวปไซต์ให้มันชัดๆไปเลยล่ะแม่คู๊น
ทีนี้เลยเอารหัสไปรษณีย์นิวยอร์กดู เว่เห้ ใบสมัครเครดิตออนไลน์ป๊อบอัพมาเลย ให้มันได้งี้สิฟะ เราก้อกรอกๆๆๆๆข้อมูลแฟนให้หมด สุดท้ายเค้าบอกว่ายังดำเนินการอนุมัติไม่ได้ต้องให้คนที่สมัครติดต่อกลับ งานนี้คุณสามีก้อเต้นเลยครับ โทรนะบัดนั้นเลย สรุปก้อได้อนุมัติค่ะ เฮ้อ กว่าจะได้ มีอะไรที่มันง่ายกะเค้าม้างมั๊ยเนี่ยะ
จากนั้นเอ็ดดี้ก้อพาะธนาคารเบิกเงินสด ต่อจากนั้นก้อกลับไปที่ร้านเดิม ก้อเจอเธอเช่นเดิม ฮ่าๆๆ สรุปก้อทำการออร์เดอร์ได้ทั้งหมดค่า กว่าจะเสร็จก้อนานพอควรเพราะมีเพิ่มของในรายการด้วย อิอิ


จัดการเสร็จก้อจะพาเอ็ดดี้ไปกินข้าวที่ outback ปรากกฎว่ายังไม่เปิดคับ ก้อคุยกะสามี สามีก้อบอกไปเดินดูของที่ Pair1 นะ มันอยู่ติดกันกะที่จะไปกินข้าวค่ะ เลยเดินเข้าไปในร้าน ตะลึงๆๆๆๆๆ เพราะมีแต่ของดีๆทั้งน้านนนน เดินดูของไปคุยกะสามีไป บันทึกรายการในสมองของที่จะกลับมาเอาไปด้วย ฮ่าๆ วางสายกะสามีแล้วก้อยังเดินดูของไปเรื่อยๆค่ะ ฆ่าเวลารอร้านอาหารเปิดด้วย
พอถึงเวลาร้านอาหารเปิดก้อเข้าไปในร้านค่ะ วันนี้เมนูที่ส่งเป็น Victoria’s crowned filet ท๊อปด้วย Blue cheese อิอิ ก่อนหน้านั้นสั่ง Blooming Onion ค่ะ โอกินได้ครึ่งหนึ่งก้อเกือบจุแล้วคะ แถมมีซุปอีก วันนี้เลยได้ลองทาน Clam Chowder ค่ะ อูยยยย อหร่อย ปรากฏว่าอิ่มตั้งแต่ตอนนี้แล้วค่ะ พอเสต๊กมา ทานได้ สามค่ำ จุกมากๆเลยขอใส่กล่องกลับบ้านเหมือนเคยย


กินเสร็จต่างคนต่างจุกค่ะ ขับรถกลับบ้านต้องคอยคุยกะเอ็ดดี้กลัวเค้าหลับ ฮ่าๆ กลับถึงบ้าน ก้อ นออนนนนค่ะ แล้วก้อตื่นมาเม้าส์กะสามีบ้าง ฮ่าๆ หมดไปอีกหนึ่งวัน

Friday, November 14, 2008

อัพเดทต่อจ้า....(ปัจจุบันซักที...อัพเดทมาราธอนมานาน...ฮ่าๆ)

นี่ก้อ 10 กว่าวันแล้วค่ะที่ย้ายเข้ามาบ้านตัวเองอย่างเป็นทางการ หลายวันที่ผ่านมาก้อมีเอ็ดดี้มาช่วย และก้อเป็นคนขับรถพาไปนั่นไปนี่ ช่างเป็นผู้ใหญ่ที่ใจดีจังเล๊ย แถมทิ้งอุปกรณ์ช่างไว้ให้ใช้ด้วย เราก้อเป็นประเภทอยู่ไม่ค่อยสุขอยู่แล้ว ฮ่าๆ ก้อทำอะไรที่ทำได้ไป เด๋ววานคนแก่มากไปมันไม่ดี อิอิ
หลายอย่างก็เสร็จหมดแล้วค่ะ ประกอบกับฝนตกมาสองวันแล้ว เอ็ดดี้เลยไม่มา ก้อเลยดูเหมือนอะไรๆมันซาๆลง มีเวลาถ่ายรูปเล่นบ้างค่ะ
Pecan ที่หล่นหลังบ้านค่ะ เหลือจากปากกระรอกทั้งหลายPhotobucket
ต้นไม้หลังบ้านเพื่อนบ้านค่ะ มันสวยดีตัดกับสีฟ้าครามของฟ้าPhotobucket
ต้นไม้หลังบ้านค่ะPhotobucket
ดอกไม้ข้าง drive wayPhotobucket
ปิดท้ายด้วยใบไม้บน mailbox ค่ะPhotobucket



ตอนนี้ก้อทำอาหารเที่ยงเลี้ยงเพื่อนเป็นประจำเพื่อเป็นการตอบแทนที่เค้าช่วยเรามานานค่ะ ก้อเป็นอาหารไทยนี่ละค่ะ บางทีก้อประยุกต์บางอย่าง เพราะหาซื้อของบางอย่างยังไม่ได้ค่ะ ต้องรอเข้าไปตะเวนที่ในเมืองใหญ่อีกทีค่ะ แต่คนกินชอบใจในรสชาดค่ะ ทำให้คนทำพลอยหน้าบานไปด้วย อิอิ รอแต่สามีกลับบ้านเนี่ยะแร่ะจะได้ทำกับข้าวดีๆให้ทานซะที ว่าแล้วก้อคิดฮอออดเด้....อิอิ

อัพเดทรวมจ้า.....

ตอนนี้ก้อเข้าสัปดาห์ที่ 4 แล้วนะคะ ตั้งแต่มาถึงเมกาวันแรก สัปดาห์แรกๆก้อเจ๊ตแล็คเต็มที่ค่ะ ไม่รู้เวลาไหนเป็นเวลาไหน ฮ่าๆ ทั้งๆที่ตอนอยู่เมืองไทยก้อนอนกลางวันตื่นกลางคืน สงสัยร่างกายมันปรับยังไม่ได้มั้งคะ แต่โชคดีหน่อยที่ไม่ป่วย อิอิ
23 Oct
หลังจากวันแรกที่มาถึง ก้อมีงานเข้าตลอดค่ะ มีอะไรทำตลอดเวลา ไม่มีเวลาเหงาเลย รุ่งเช้าจากวันที่มาถึง จีน่าก้อมารับไปทำธุระกัน แต่ปรากฏว่าเมารถฮ่ะ ฮ่าๆๆ เสียฟอร์มมาก นั่งเครื่องเป็นยี่สิบชั่วโมงไม่เมา มาเมาตอนนั่งรถเนี่ยะนะ ต้องแวะพักที่ร้านที่เวลเดลทำงานอยู่ พอรู้สึกดีขึ้นก้อไปดูมือถือกัน และได้มือถือมา อิอิ เพราะ ginger ale ค่ะที่ทำให้รู้สึกดีขึ้น มันก้อเลยกลายเป็นน้าประจำกายเหมือนเด็กมีขวดนมยังงัยก้อยังงั้นไปนานพอสมควรค่ะ
แต่ละวันที่ผ่านไปก้อมีอะไรทำมากมายค่ะ ไม่รู้ทำอะไรนักหนาเนอะ ฮ่าๆ ส่วนมากก้อจะเรื่องบ้านค่ะ
26 Oct
มาได้สามวันก้อได้ไปเจอหนุ่มน้อยหย้าจ่อย ฮ่าๆๆ เจ้าลูกชายนั่นเองค่ะ ดีใจมากๆเลยค่ะ เพราะในที่สุดก้อได้เจอตัวเป็นๆซะที หลังจากที่คุยกันทางเนตบ้าง โทรศัพท์บ้าง เวปแคมบ้างมานานหลายปีแล้ว เคนนี่โตเป็นหนุ่มแล้วค่ะ เร็วๆนี้คาดว่าจะสูงกว่ารรสแล้ว ตอนเจอหน้าครั้งแรกนี่ เหอๆๆ ไม่ได้คิดค่ะ กระโดดกอดลูกเลย ฮ่าๆ ไม่รู้ทำให้เคนนี่ตกใจกลัวอ่ะป่าว แหม ก้อคนมันดีใจที่ได้เจอนี่นา
Photobucket
Photobucket

จากนั้นเราก้อพากันจะไปกินข้าวที่ร้านอาหารไทย ไปถึงปรากฏว่า ปิดบริการวันอาทิตย์ เออ..แปลกนะเมืองนี้ ร้านอาหารปิดวันอาทิตย์ จะไปกินร้านอาหารแม็กซิกันก้อดันปิดวันอาทิตย์อีก ให้มันได้งี้สิฟะ สรุปลงเอยที่แอปเปิ้ลบีส์ค่ะ
Photobucket
พอเสร็จก้อพาเคนนี่ไปช๊อปปิ้งของฮาโลวีนค่ะ อืม เคยบอกลูกไว้หายทีแล้วว่าจะซื้อ MP3 อันใหม่ให้ วันนั้นเลยได้ฤกษ์ค่ะ ซื้อให้ใหม่เลย ไม่รู้ลูกจะคิดว่าเราพยายามซื้อของเพื่อให้เค้าชอบเรารึป่าวนะ เพราะไม่มีความคิดแบบนั้นเลย อยากให้ลูกได้สิ่งที่เค้าอยากได้เท่านั้นเอง แต่เคนนี่เป็นเด็กน่ารักค่ะ เกรงใจและจะซื้อเท่าที่อยากได้จริงๆ
Photobucket
พอได้ช๊อปเสร็จก้อไปบ้านแม่เคนนี่ค่ะ เซอร์ไพรส์มากๆค่ะ เพราะเคนนี่เตรียมดอกไม้ไว้ให้ ดีใจสุดๆเลยเพราะเป็นดอกไม้ช่อแรกในรอบปีที่ได้
Photobucket
จากนั้นก้อนั่งคุยกะเคนนี่น้อยพอสมควรก้อได้เวลาจรลีกลับบ้านเวนเดล เสียดายน่าจะมีเวลาได้อยู่กะลูกมากกว่านี้ เจ็บใจที่ขับรถไม่เป็น มาหาลูกเองไม่ได้ เพราะไม่รู้จักทาง ไปไหนมาไหนเองไม่ได้ อึดอัดว้อยยยยย

29 Oct
วันนี้แม่สามีกะพ่อเลี้ยงมาหาที่บ้านเวนดลคะ แล้วก้อพากันมาดูบ้าน จากนั้นก้อถึงเวลากินค่ะ ฮ่าๆๆ ขับรถไปโคลัมเบียจะหาอะไรทานกัน สรุปลงท้ายด้วยบุปเฟ่จีน กินจนพุงกางค่ะ แทบกลิ้งออกมาจากร้านเลย ฮ่าๆ
Photobucket

30 Oct
วันนี้มาบ้านตามเคยค่ะ สามีบอกให้ลองใช้เตาผิงดู เออมาก้อหลายวัน หนาวกันอยู่ได้ไม่มีใครคิดออกเลย จุดไฟเตาผิง เอาไม้มาใส่แล้วมันพะยะค่ะ แถมอุ่นด้วย ฮิฮิ
Photobucket
วันนี้ก้อมีเรื่องตื่นตัลค่ะ เพราะตอนบ่ายแก่ๆมีคุณปู่คนหนึ่งขับรถมาจอดที่ลานหญ้าหน้าบ้าน (ไม่มีมารยาทมาก) อืม ไม่พอแถมมาหาว่าบ้านเป็นบ้านของแกอีก เหอๆๆๆ ไอ้เราก้อตกกะใจ มาได้งัยหว่า แต่ไมค์ก้อเล่าว่าปู่แกเป็นอัลไซเมอร์และมีบ้านหลายหลังจนจำไม่ได้และชอบขับรถตะเวนเมืองดูบ้าน วันดีคืนดีก้อโทรศัพท์ไปหาเลขาให้ซื้อบ้านหลังที่ตัวเองเป็นเจ้าของซะนี่ เยอะเกินไม่รู้ว่าเป็นเจ้าของหลังไหนค่ะ แต่คุณปู่ค่ะบ้านหลังนี้อ่ะของหนูกะสามีค่า
Photobucket
วันนี้นอนที่บ้านเป็นคืนแรกด้วยค่ะ หนาวได้ใจแต่มีความสุขดีค่ะ นอนในถุงนอนด้วยค่ะ อิอิ แต่ก้อแสนจะมีความสุขค่ะเพราะได้นอนบ้านตัวเองมันเป็นอะไรที่อธิบายไม่ได้ด้วยวาจาและอักษรค่ะ ดีใจค่ะจนบอกไม่ถูกค่ะ

31 oct
วันแห่งการรอคอยก้อมาถึง เย้ๆๆๆ เค้ามาติดตั้ง Heater กะ AC ให้แว้วค่ะ ส่วนราคาไม่บอกนะคะว่าเท่าไหร่เพราะเด๋วหายาดมไม่ทัน ฮ่าๆๆ อืม เสร็จไปอีกอย่าง เด๋วก้อย้ายเข้าได้แว้ววววว
Photobucket

3 Nov
ในที่สุดวันแห่งการรอคอยอีกวันก้อมาถึง ย้ายเข้าบ้านแล้วค่า เย้ๆๆๆๆๆ จัดการเก็บกวาดของในห้งสามีที่บ้านเวนเดลย้ายมาที่บ้านอย่างเรียบร้อยค่ะ ด้วยความช่วยเหลือของเวนดล เอ็ดดี้ แล้วก้อเพื่อนของเวนเดล ย้ายมันกลางฝนตกแร่ะค่ะ ดีนะที่ตกไม่เท่าไหร่ เป็นวันที่แสนเหนื่อยอีกวัน แต่ก้อมีความสุขดีมิใช่น้อยค่ะ

4 Nov
วันนี้เป็นวันแห่งตู้เย็นและ water heater ค่ะ ก้อเจ้าอันเดิมที่มีที่ว่าใช้ได้มันดันใช้ไม่ได้งัยคะ ต้องต้มน้ำอาบตั้งแต่ย้ายเข้ามาเลย ฮ่าๆๆๆ เหมือนตอนเป็นเด็กๆเลยเวลาหน้าหนาวที่ไรต้องต้มน้ำอาบทุกที โทรส่งตั้งแต่โฮมดีโปท์เปิดทำการค่ะ เลยสามารถติดตั้งได้ภายในวันเดียว รวดเร็วถูกใจนักแล ส่วนตู้เย็นนี้ก้อกลายเป็นเรื่องใหญ่ไป ต้องวานให้โรเบิร์ตมาช่วยพาไปซื้อที่โฮมดีโปท์ ปล่อยให้เอ็ดดี้คอยดูคนที่มาติดตั้ง water heater ที่บ้านไป ต้องไปเอาตู้เย็นที่โฮมดีโปร์ใหญ่ค่ะ ก่อนไปก็โทรถามพนักงงานก่อนว่ามีรุ่นนี้ ยี่ห้อนี้มั้ย ราคาเท่าไหร่ พอไปถึงพนักงงานคงจำได้เลยพูดแกมตลกว่า “Are you the woman on the phone with ten thousand questions??” ฮ่าๆๆๆ เดี้ยนนี่ล่ะค่ะ ได้ตู้เย็นก้อใส่เทรเล่อร์ที่โรเบิร์ตพ่วงมาบริการจากบ้าน รอบคอบมากค่ะ กลับมาบ้าน เย้ๆ มีน้ำอุ่นใช้แล้วค่า จากนั้นก้อจัดการเอาตู้เย็นเข้าที่ ปรากฏว่าเข้าประตูทางเดินไปครัวไม่ได้ ต้องถอดประตูทั้งสองข้างของตู้เย็นออก ถอดประตูเข้าโถงทางเดินด้วย ฮ่วย....ม่ายถอดมากมายงี้ฟะ แต่สุดท้ายมันก้อไปอยู่ในที่ตู้เย็นแล้วก้อเริ่มทำงานนนน อิอิ ถึงเวลาซื้อของมายัดตู้เย็นแว้วววววว... สรุปคือสิ่งพื้นฐานที่จำเป็นแล้วค่ะ เล่นเอาหมดเหงื่อไปหลายถังเหมือนกนันนะคะกว่าจะจัดการกะสิ่งต่างๆเหล่านี้ได้

การเดินทางกะบ้านนนนนนนนของงงงช้านนนนน.....

ยาวหน่อยนะคะเพราะดองมาวันนานแล้วค่ะ แฮ่ะๆ


มาแล้วจ้า แฮ่ๆ หลังจากที่ไม่ได้อัพเดทมานาน วันนี้เลยขออัพเดทชีวิตหน่อยจ้า ตอนนี้มาปรากฏตัวอยู่ที่อเมริกาแว้วจ้า รวดเร็วมากใช้ไหมคะ โดนส่งเด้งกลับบ้านด่วนโดยสามีอันเนื่องจากความไม่น่าไว้วางใจของสถานการณ์บ้านเมือง เอาแบบย่อๆเลยนะคะ มีเวลาเตรียมตัวมาเมกาแค่ 9 วัน ก่อนหน้านี้ก้อเอ้อละเหยอยู่เพราะจริงๆกำหนดเดินทางมันโน่นเดือนธันวา แต่ไม่เป็นไรสีทำได้ ฮ่าๆๆ เก็บของทั้งหมดกลับไปไว้บ้านแม่ที่อุดร จากนั้นก้อมาเดินทางมานี่เลย


ตอนอยู่ที่บ้านที่อุดร วันแรกที่ถึงดีใจที่สุดเลยเพราะได้เจอหลายชายน้อยเป็นครั้งแรก น่ารัก อารมณ์ดีสุด (ยกเว้นตอนอีป้ามันปลุกกลางดึกมาเล่นด้วย ตอนที่มาถึงวันแรก) ยิ้มให้คนเค้าไปหม๊ด เป็นขวัญใจในซอยไปเลย

Photobucket

Photobucket

อยู่บ้านแม่ได้ไม่กี่วันก้อต้องออกเดินทาง นั่งเครื่องจากอุดรมากรุงเทพ นั่งชั้นธุรกิจด้วยนะ ฮ่าๆ เพราะคำนวณแล้วนั่งชั้นประหยัดแล้วจ่ายค่าน้ำหนักกระเป๋าเกินมันพอๆกะนั่งชั้นธุรกิจแล้วจ่ายค่ากระเป๋าเกิน แม่กะน้องพร้อมญาติและเด็กๆมาส่งที่สนามบิน กลัวน้ำตาจะท่วมสนามบินเลยต้องเข้าไปข้างในรอขึ้นเครื่อง แอบน้ำตาเล็ดเล็กน้อย หุหุ มาถึงกรุงเทพก้อได้มานั่งพักนิดหนึ่งที่สุวรรณภูมิ คุยกะสามีไปเรื่อยจนกระทั่งเช็คอิน จากนั้นก้อตรวจพาสปอร์ตแล้วก้อเดินหาเกต โอแม่เจ้ามัยมันไกลงี้ฟะ หิวน้ำด้วย ลากกระเป๋าที่เต็มไปด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ x-box ทั้งหลาย และมีกระเป๋าคอมพิวเตอร์ กระเป๋ากล้อง และตามด้วยกระเป๋าถือ บ้าหอบมั้ยล่ะนั้น หนักเอาการค่ะ แต่สีทนด้ายยยยยย

อ้อ ลืมบอกค่ะว่ามากับ Korean Air แต่จองตั๋วทาง expedia และ เดลต้าแอร์เป็นคนออกตั๋วให้ กลับมาที่การเดินทาง พอหาเกตได้ ก้อคุยกะสามีต่อ จริงๆคุยกันตั้งแต่ตรวจพาสปอร์ตเสร็จโน่นละคะ มาราธอนจริงๆ ฮ่าๆ ก้อคนมันคิดถึงกานนนนี่นา


ได้เวลาขึ้นเครื่องก้อหิวสัมภาระขึ้นเครื่อง ได้ที่นั้งค่อนข้างสบายหน่อยค่ะ เพราะเป็นสี่ที่นั่ง แต่มีคนนั่งแค่สองคน อิอิ เสร็จนังสี แบ่งกันคนละสองที่นั่งไปเลย เหนื่อยน่าดูชมค่ะ ได้ที่นั่งเป็นหลับเลย เครื่องเทคออฟ รู้สึกว่าสั่นๆอยู่ค่ะ แต่หลับต่อ ฮ่าๆๆ จากนั้นก้อหลับๆ ตื่นๆ กินๆ ดื่มๆ


ห้าชั่วโมง กว่าๆผ่านไป ก้อถึงโชลค่ะ มีเวลาต่อเครื่องแค่ 30 กว่านาที วิ่งแถบตับแล่บกว่าไม่ทัน แต่ก้อทันค่ะ ได้นั่งพักนิดหนึ่ง แล้วเค้าก้อเรียกขึ้นเครื่อง พอขึ้นเครื่องเสร็จ รู้สึกว่าอากาศจะไม่เป็นใจ เพราะนั่งรออยู่ในเครื่องพอสมควรกว่ากัปตันจะเอาเครื่องขึ้น พอเครื่องขึ้นแล้วก้อ ตามสเตปค่ะ กิน หลับ ดืม ดูหนัง ซ้ำๆไป นานนนนนนมาก แต่อาหารอร่อยดีค่ะ อาหารกาหลีทั้งนั้น


13 ชั่วโมงผ่านไป นอนดู Iron man ยังไม่จบลย ฮ่าๆ เครื่องลงที่ Atlanta ค่ะ ลงเสร็จก้อเดินๆๆๆๆ มาด่าน ตม. เดินเฉิบเข้าช่อง US Citizen and Residence ไปเลย พอใกล้ถึงคิว เจ้าหน้าที่หญิงคนหนึ่งดูพาสปอร์ตแล้วก้อบอกว่าต้องไปช่อง visitor ก้อเถียงเค้าอีกว่า ไอ ม่ายช่ายย visitor นา เจ้าหน้าที่ก้อบอกว่า เค้า process กรณีอย่างคนช่องนี้ เออ....ไม่เถียงแร่ะ ว่านอนสอนง่ายก้อได้ อ่ะจ้ะ ก้อยืนรอคิวอยู่ ปรากฏว่าคนที่ก่อนหน้ามันปัญหาสักอย่างนี่แร่ะ เลยช้ามาก ช่องอื่นๆเกือบหมดแร่ะ โธ่ อุตสาห์มาเข้าแถวเป็นคนหน้าๆ พอถึงคิว เจ้าหน้าที่ดูๆแล้วก้อเขียนหมายเลขลงในแพคเกตที่ได้จากสถานทูต แล้วบอกว่าวี่ซ่าของสี process ข้างล่างนะ เอากระเป๋าแล้วเดินตามช่องไป จ้าท่าน ตม.

เดินต๊อกๆๆ แล้วก้อไปเอากระเป๋า มัยมันหนักงี้ฟ่ะ ฮ่าๆ ไม่มีใครช่วยยกเลย พลังหญิงเหล็กทำเองเลย อิอิ

จากนั้นก้อเดินไปเช้าช่องเช็คเอกสาร declare เจ้าหน้าที่ก้อเอาเอกสารใส่แฟ้มพลาสติคแล้วก้อให้เดินไปตามเส้นสำน้ำเงิน ทำตามอย่างอินโนเซ้น หุหุหุ


รอพักหนึ่งก้อมีเจ้าหน้ามารับเอกสาร แล้วก้อบอกให้นั่งรอ เจ้าหน้าที่อัธยาสัยดีค่ะ รอ สักพักเจ้าหน้าที่ก้อเรียกชื่อพร้อมให้ไปเซ้นเอกสาร และอธิบายว่าเด๋วการ์ดจะส่งไปที่บ้านนะ พร้อมกับ SSN ถ้ารีบก้อไปขอ SSN เองได้เลย ไม่มีปัญหา พร้อมบอกว่าต้องยื่นของถอนเงื่อนไขในการ์ดเมื่อไหร่ แล้วก้อปล่อยตัวไปโดยไม่มีการเอาเป๋าเราเข้าเครื่องเช็คของแสลง อิอิ


เดินออกมากเลี้ยงขวาไปทางต่อเครื่องค่ะ โหลดกระเป๋า จากนั้นก้อเดินออกมาทางออกไปขึ้นรถไฟไปหาเกต เอาละค่ะงานเข้า เพราะมันสับสนนิดหนึ่ง ฮ่าๆ ลงรถที่ชุมทางเกต D แล้วก้อเดินๆๆๆ เอ๊ะ มันยมันเกือบถึง E แล้วอ่ะ เอ้า...เดินกลับไปใหม่ดีกว่า เหม่ ตรูเดินเลยบันไดเลื่อนขึ้นไปเกต D ทั้งหลายนี่เอง

พอถึงเกตก้อนั่งแหม่ะอยู่ตรงน้านล่ะค่า แต่ไม่ง่วงค่ะขอโบก เพราะคนมันตื่นเต้น ฮิฮิ เอ้าได้เวลาบอร์ดดิ่งขึ้นเครื่องอีกแว้ว ลำที่เท่าไหร่แล้วเนี่ยะ ตอนขึ้นเครื่องต้องออกมาขึ้นเครื่องเหมือนแอร์เอเชียสมัยก่อนบ้านเราอ่ะค่ะ แต่นี่ไม่ต้องนั่งรถ แค่เดินลงบันไดแล้วขึ้นเครื่อง โดนอากาศสดๆของเมกาเจ้าค่ะ หนาวววววววเย็นนนน ลมด้วยยยย รีบเดินขึ้นเครื่องเล๊ยนังสี เครื่องจากแอตแลนต้ามาโคลัมเบียเล็กค่ะ 24 ที่นั่งเอง รำคาญคนที่นั่งข้างๆมาก คุยตลอดศกเลย งีบก้อไม่ได้งีบ พนักงานแจกถั่วหนึ่งถุง อิอิ หมดถุงก้อถึงโคลัมเบียจ้า ฮ่าๆๆๆ ลงเครื่องได้แด่วไปเอากระเป๋าเลย ได้กระป๋าเสร็จ มองๆๆๆหาคนที่มารับ ม่ายมีอ่ะ เอ้าลองเดินข้างนอกดิ ม่ายมี ฮ่วยยย ไปไสกันหว่า ถามคนที่นั่งอยู่เค้าบอกว่าอาจรอที่ข้างบนก้อได้ คือ สนามบินพิสดารค่ะ มาเจอกันก่อนแล้วค่อยลงไปรับกระเป๋าข้างล่างก้อได้


สีก้อเข็ญรถกระเป๋าจะขึ้นข้างบนค่ะ เข็ญๆๆๆเข้าไปข้างไหนลืบ เจอลิพท์ มัยไม่ขึ้นชั้นสองฟะ ออกก้อได้ เข็ญออกมา ที่รอรับกระเป๋าถามพนักงานลิพท์ที่ใช้ได้อยู่ไหน เค้าก้อบอกแล้วก้อขึ้นข้างบนได้ โก๊ะจริงๆ ฮ่าๆ ขมาถึงข้างบน แง่วม่ายเห็นใครเลย มองหาโทรศัพท์ หงิ ตรูไม่มีเหรียญ หน้าแห้งไปหลายหลาค่ะ แล้วจะไปไหนเนีย่ะถ้าไม่มีใครมารับ ฮ่าๆๆ


สักพักน้อย อ้าวผู้หญิงหน้าคุ้นๆ น่านเพื่อนเรานี่หว่า หน้ากลับมาสดใสเหมือนเดิม อิอิ เพือนสามคนมารับที่หนามบินค่า เค้าพึ่งขับรถมาถึง โอ๊ยเหนื่อย ฮ่าๆๆ เพื่อนบอกว่าสามีโทรเช็คทุกๆสิบนาที ว่าถึงสนามบิน เจอตัวเมียชั้นอะยัง


พอเจอกันก้อพาไปรถ ขนข้าวของขึ้นรถเสร็จ ขับรถไป รู้สึกสับสนนิดหน่อยเพราะขับรถผิดข้างกะที่เมืองไทย อ่ะไม่เป็นไร เพื่อนๆใจดีพามาดูบ้านก่อนเลยยย บ้านนนนนนนของช้านนนนนนน เห็นแล้วอยากให้สามีอยู่ตรงนั้นด้วยจัง เพราะมันเป็นเวลาที่มีความสุขมาก เดินดูบ้านและรอบๆบ้าน รู้สึกอยากจะย้ายเข้าซะวันนั้นให้ได้เล๊ย พอดูบ้านหนำใจแล้วเพื่อนๆก้อพาไปบ้านเวนเดล ที่จะซุกหัวนอนหลายวัน ฮ่าๆ ที่บ้านเวนเดลจะมีห้องหนึ่งที่เป็นห้องของสามีอยู่คะ แต่ก้อใช้เป็นห้องรับแขกเวลามีคนมาเยี่ยม จากนั้นก้อไปซื้อเสต๊กแล้วไปทำทานที่บ้านไมค์กะจีน่า มาวันแรกประเดิมเสต๊กเลยเว้ย ฮ่าๆ ทานเสร็จแทบลืมตาไม่ขึ้น เวนเดลเลยพากลับบ้าน นอนน........แต่ตื่นมาคุยกะสามีตามเดิม ฮ่าๆๆๆ

Photobucket

Friday, October 3, 2008

อัพเดทจ้า....

มาอัพเทดสักนิดหน่อยจ้า เพราะกะจะอัพเดทบล็อคทุกๆ 7-10 วัน สถานการณ์ทั่วไปเหมือนเดิมค่ะ แต่ช่วงนี้ฝนตกเยอะมากๆ


ช่วงนี้อยู่ในเทศกาลกินเจค่ะ ปีนี้เลยเอากะเค้าสักหน่อย กินเจได้หลายวันแล้ว หิวบ่อยมากๆ ฮ่าๆ แต่ก้อตั้งใจจะทำแล้วก้อต้องทำให้ได้คะ


พูดถึงครอสติส เสร็จเรียบร้อยโรงเรียนมือใหม่หัดปักแล้วค่ะ ยังงัยก้อพิจารณากันเองนะคะว่าฝีมือเป็นงัย และมันเป็นรูปอะไร
อันนี้ยังไม่ซักนะคะ



แต่ก้อยังไม่เข็ดค่ะ ตอนนี้เริ่มโครงการใหม่แล้ว ใหญ่เป็น 4 เท่าของอันที่ทำเสร็จ ก้อมานั่งคิดอยู่ว่ามันจะทำเสร็จเมื่อไหร่เนี่ยะกล้าหาญมากที่ทำอันใหญ่ขนาดนี้ตอนที่ทำในโปรแกรมไม่นึกว่ามันจะใหญ่ขนาดนี้ ฮ่าๆๆ เอาฟะ สู้ๆ



แวะมาเรื่องรถคันใหม่หน่อยค่ะ เพื่อนสามีไปเอามาจอดไว้ที่โรงรถเรียบร้อยแล้ว เค้าบอกว่าสภาพรถเหมือนใหม่เลย ซื้อได้ดีมาก อิอิ แต่มีที่จะต้องเปลี่ยนใหม่ก้อมีหลอดไฟในด้านในตรงที่วางของเท่านั้นเอง นอกนั้นโอเช
เมื่อวานก้อสั่งจ่ายเช็คสุดท้ายค่ารถจี๊บไปแล้วค่ะ เย้
ก้อเหลือแต่เจ้าของกลับไปขับมันเนี่ยะละค่ะ


สามีช่วงนี้ไม่มีภารกืจค่ะ รอบริษัทหาคู่ค้าอยู่ค่ะ สบายไปหลายวันเลย ดีค่ะอยากให้มีเวลาพักมั้ง มีเวลาแชตเยอะๆด้วย


ตอนนี้เรามีการบ้านทำค่อนข้างเยอะค่ะ ต้องติดค่อหาคนที่จะส่งมอไซด์ไปเมกา ดูคร่าวๆแล้วขั้นตอนค่อนข้างเยอะเหมือนกันค่ะ



ก่อนจบการอัพเดทวันนี้ ขอบ่นเรื่องแถวๆนี้หน่อยค่ะ ฮ่าๆ ก้อจะอะไรซะอีกค่ะ เรื่องเสียงเครื่องบินขับไล่นั่นแร่ะ อันนี้ค่อนข้างต้องทำใจเพราะเลือกที่จะมาอยู่แถวนี้เอง อันที่สอง ร้านขายเครื่องเสียงที่อยู่ไกลจากอพาร์ทเม้นประมาณ 100-200 เมตร ไม่รู้ว่าคุณเธอทำอะไรกันนักหนา โอเชถ้าลองเครื่องเสียงให้ลูกค้าบางครั้ง อันนี้รับได้ แต่ไอ้ที่เปิดแปดหลอดตอนเย็นๆเพื่อฟังเพลงเนี่ยะ ม่ายไหวค่ะ อันต่อมาอันนี้นี้พึ่งเกิดค่ะ หลังจากที่ห้องเยื้องๆกันย้ายเข้ามาไม่เท่าไหร่ กลิ่นแอร์บวกกลิ่นบุหรี่นี่มาถึงห้องเราเลย ทั้งๆที่ช่องระหว่างประตูกะพื้นห้องมันน้อยมากนะ บางที่เวลาเดินตามทางเดินไปลิพท์ต้องกลั้นหายใจ ไม่ได้กะแดะอะไรหรอกค่ะ กลิ่นพอควรก้อพอทนได้ แต่นี่มันมากจริงๆ ขนาดนอกห้องยังได้กลิ่นขนาดนี้ไม่รู้ข้างในห้องเป็นโรงงานยาสูบรึป่าว
น่านเรื่องบ่นล่ะยาวเลย ฮ่าๆ


อัพเดทแค่นี้ก่อนนะคะ ไม่ค่อยมีเรื่องตื่นเต้นเลยเนอะ

Tuesday, September 23, 2008

ของขวัญ......

มาอัพเดท ชีวิตช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหน่อยค่ะ ก้อไม่มีอะไรมากมายค่ะ ฝนตกน้ำท่วม การเมืองน่าเบื่อ เศรษฐกิจขาลง นั่งฟังอยู่ทุกวัน ฟังไปฟังมาก้อเครียดบางครั้ง ฮ่าๆๆ


วันศุกร์ 19 กันยา ที่ผ่านมา เป็นวันสำคัญค่ะ เพราะแก่ขึ้นอีกหนึ่งปี อายุตอนนี้ก้อพึ่ง 17 ค่ะ ฮ่าๆ ไม่มีอะไรมากมายค่ะ ก่อนเที่ยงคืนก้อไปเซเว่นซื้อ คัพเค้ก ปักเทียน เป่าเอง (ท่าจะบ้าเนอะ) นั่นล่ะเค้กวันเกิด หาเรื่องกินขนมตอนกลางคืน ฮ่าๆ ตอนเช้ามาก้อไปทำบุญค่ะ ถวายสังฆทาน แล้วก้อซื้อปลาไปปล่อยที่แม่น้ำมูน จากนั้นก้อไปเหมาของมาทำอาหารให้ตัวเองกิน อหร่อยค่ะ กินจนพุงกลางเลย จากนั้นตอนบ่าย แม่กะน้องก้อโทรมาอวยพรวันเกิด คุณลุง ส่วนสามีไม่ต้องห่วงค่ะ รายนี้ก่อนเพื่อนเลย หลายคนอาจจะมองว่า วันเกิดของรสเหงาๆ ใช่ไหม ไม่นะ ไม่มีความรู้สึกเหงาหรือเศร้าไรเลย ถึงแม้ว่าคนที่เรารักและรักเราจะไม่ได้มาอยู่กับเราในวันเกิด แต่เรารู้ว่าเค้ารักเรา คิดถึงเราทุกวัน หลายคนคาดหวังจะได้ของขวัญในวันเกิดมาถึง แต่ความคิดเรา คือ เมื่อชีวิตคนเรามีเต็มในใจแล้ว สิ่งที่เราจะอธิฐานขอในวันสำคัญไหนๆจะไม่มีอะไรมากมายนอกจากขอให้คนที่เรารักและรักเรามีความสุขและปลอดภัย รสรู้สึกยังงั้นจริงๆในวันเกิดปีนี้ ถึงแม้ไม่มีของขวัญที่เป็นวัตถุอะไร แต่ของขวัญที่วิเศษที่สุดที่เป็นเหมือนของขวัญทุกวัน รสมีแล้วค่ะ
อ๊ะๆๆๆ อย่าพึ่งคิดว่ารสไม่ได้ของขวัญวันเกิดนะ ได้ของขวัญชิ้นหนึ่งค่ะจากสามี นี่ค่ะของขวัญที่ได้จากสามี



ใช่แล้วค่ะ สามีซื้อรถให้เป็นของขวัญวันเกิด จริงๆแล้วก้อดูๆกันไว้ค่ะ แต่ไม่คิดว่าจะซื้อเร็วๆนี้ แต่สามีมาเซอร์ไพรแบบนี้ โค ตะ ระ ดีใจเลยค่ะ Nissan Xterra 2003 ค่ะ สภาพดีมากค่ะ ดีใจจนบอกไม่ถูกค่ะ รักสามีที่สุดเลย (ทุกวันแร่ะ อิอิ) แต่จะบอกว่า รสยังขับรถไม่เป็นค่า ฮ่าๆๆๆ คงน่าดูชมแน่ๆเลย หัดขับรถยนต์ใหม่ ฮ่าๆๆๆ ตอนนี้นั่งฝันถึงการขับรถคันนี้ไปก่อน อิอิ


คุณสามีไปทำงานที่ ซาโก สัปดาห์ที่แล้วค่ะ แต่ยังดีที่มีเนตคุยกันค่ะ พูดเรื่องเนต สามวันก่อนเนตเดี้ยงค่ะ ตั้งแต่หัวค่ำจนรุ่งเช้าอีกวัน หัวเสียสุดๆค่ะ เพราะวันนั้นสามีไม่มีอารายทำมากด้วย อุเหม่ มาเดี้ยงวันที่สามีชั้นว่างเนี่ยะนะ อารายทำนองนี้ค่ะ โมโหสุดๆ แต่เช้าเค้าก้อซ่อมค่ะ โทรไปบอกเค้าตั้งแต่ออฟฟิตเปิดเลย หุหุหุ


คุณสามีก้อยังทำงานหนักเหมือนเดิมค่ะ อยากกลับบ้านมากเหมือนกันค่ะ แต่ต้องทำเงินก่อน อิอิ รออออออด้วยกันจ่อปายยยยยยยยย คิดถึงมากๆทุกวันเลย
อัพเดทแค่นี้ก่อนนะคะ ไปดู Battle Stars Galactica ก่อน ติดมากๆๆ ฮ่าๆ



ป.ล ครอสติสใกล้เป็นความจริงแล้วฮ่ะ

Saturday, September 13, 2008

บ้าน......

ช่วงนี้เป็นช่วงฟุ้งซ่านค่ะ อยู่ไม่ค่อยสุขทางความคิด เพราะอะไรเหรอ เพราะคิดถึงบ้านนนนนนนน่ะสิ คิดถึงก็กลับสิใช่ไหม กลับยังงงงงงม่ายยยยยด้ายยยยยยย (แสดงความอยากไปสุดฤทธิ์) สงสัยใช่ไหมว่าบ้านที่ไหน บ้านที่เมกาเจ้าค่ะ ทำไมอยากไปหนักหนาเหรอ เพราะบ้านหลังนี้คือบ้านที่ชั้นเรียกว่า”บ้านของชั้น”ได้เต็มปาก บ้านที่เป็นบ้านจริงๆ ไม่ต้องเช่าเค้าอยู่ ที่ตอกตะปูข้างฝาห้อยรูปได้โดยไม่มีใครมาคอยหักค่าเสียหาย (ระบายความในใจสักหน่อยอยู่อพาร์ทเม้นมานาน ฮ่าๆๆๆ) ไม่กลัวนะที่จะต้องย้ายไปอยู่บ้านทื่ไม่มีอะไรเลย ต้องเริ่มใหม่หมด (ดีซะอีก งานจะได้เข้าเยอะๆ เหอๆๆ) อยู่บ้านห้องเดียวก้อเคยมาแล้ว จะกลัวอะไร ขอให้บ้านเป็นบ้านที่ทำให้ชั้นรู้สึกว่าอยู่บ้านก้อพอ อยู่กับคนที่รัก ได้ขุดดิน ปลูกหญ้า(มีเยอะแล้ว) ปลูกผัก ในที่ของตัวเองโดยไม่ต้องมีอะไรมากวนใจ ถ้าจะเรียกอีกอย่างหนึ่ง มันคือความรู้สึกมั่นคงใช่ไหม งานที่รออยู่ยังมีอีกเยอะ แต่ชั้นมั่นใจว่าถึงจะเหนื่อยก้อจะเป็นเหนื่อยที่มีความสุข ขอบคุณสามีเหลือเกินที่ทำให้ได้รับความรู้สึกแบบนี้


ยังไม่มีกำหนดวันเดินทางค่ะ รอให้สามีสางงานก่อน (ต้องใช้คำว่าสาง) รู้ค่ะว่าเค้าก้อรู้สึกเหมือนเรา อยากกลับบ้าน พ่อไม่ได้เจอลูกปีหนึ่งแล้ว ขอบใจหนูเคนนี่ที่เข้าใจภาระของพ่อ อดชมลูกไม่ได้เพราะเค้าเป็นเด็กดีจริงๆ เข้าใจสิ่งต่างๆได้ง่าย แต่เด็กยังงัยก็คือเด็ก การที่เค้าเข้าใจสิ่งต่างๆได้ง่ายไม่เสมอไปที่เค้าจะไม่รู้สึกต้องการพ่อ แต่หนูเคนนี่จัดการกับมันได้ดีมาก ต้องยกความดีให้บุคคลรอบข้างเค้าด้วยนะ
พูดถึงเรื่องคอสติสงานอดิเรกหน่อยนิ๊ดก่อน ไปหาอารายมากิน (หิวแล้ว) ทำได้เกือบครึ่งแล้วล่ะ ก้อออกมาโอเชใช้ได้ (ชมตัวเอง ฮ่าๆๆ) แต่สองวันมานี่ยังไม่เสร็จสักตาเลย ทำได้นิดเด๋ว สามีโทรมา วางคอสติส โน่นใจลอยไปไกลถึงไหนต่อไหน ถึงสามี ถึงบ้าน กลายเป็นวางนานมาก ยังไม่ขี้เกียจนะเคอะ แต่จะพยายามตั้งใจทำให้เสร็จ

ท้องร้องประท้วงแล้วค่ะ เหอๆๆ ไปซื้ออาหารมาบรรณาการมันก่อนนะคะ

Wednesday, September 3, 2008

งานเข้า กะ เรื่องตื่นตัลลล....อิอิ

ด้วยความที่ไม่ค่อยมีอะไรทำแล้วรู้สึกผิดเล็กน้อย (น่าจะรู้สึกตั้งนานแล้วนะ) ก้อเลยนั่งๆคิดว่าต้องหาอะไรทำเพื่อฆ่าเวลา และลดความอยากกลับบ้านมั้งแล้วล่ะ แล้วตรูจะทำอะไรล่ะเนี่ยะ นั่งอ่านบอร์ดไป เอ๊ะ เจอสาวๆในบอร์ดเคยพูดถึงครอสติสกัน เอาล่ะเอาอันนี้เลย แต่ด้วยความที่ชอบความท้าทายและแหวกแนวคับ เลยไปหาโปรแกรมที่เอารูปมาทำลายครอสติสเอง บรรเจิดไหมล่ะคะ ทำไว้ตั้งห้าลายแน่ะ แล้วก้อเลือกว่าจะทำรูปไหนเป็นรูปแรก โปรแกรมวันก้อดีนะคะบอกว่าต้องใช้ด้ายสีอะไร เบอร์อะไร ตื่นเต้นอยู่ทั้งคืนจะได้ทำครอสติสลายตัวเอง นอน ตีห้าของวันแน่ะ (เวอร์เนอะ)


วันรุ่งขึ้นไปร้านที่เค้าขายอุปกรณ์งานประดิษฐ์ เจ้าของร้านก้อพาไปที่เค้าเก็บด้ายครอสติส โอยเวรกรรม ยี่ห้อสีด้ายที่จะเอามาปักดันไม่มีสีด้ายที่เราต้องการ เอาแล้วคับ ด้วยความเก่งกาจ บวก บ้า ก้อเลยเทียบสีกับด้ายยี่ห้ออื่นที่มัน คล้ายกัน ไม่รู้รูปที่ปักจะออกมาเป็นหมู่หรือจ่า ฮ่าๆๆๆ ตอนนี้ก้อนั่งปักๆๆๆ ไปเรื่อยค่ะ สีด้ายก้อโอเชค่ะ ไม่เวอร์เกินไป เดี๋ยวรอดูผลงานนะคะ อิอิ


วันที่ 30 ส.ค ตอนค่ำประมาณ สามทุ่ม นั่งดูทีวีบวกกับปักครอสติสอยู่เพลินๆ “กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ.....” เสียงอารายฟะ อ้าวเสียงไฟฉุกเฉิน ไฟไหม้ที่ไหนล่ะเนี่ยะ ไม่รู้จะทำอะไรค่ะ ตื่นเต้นไปหมด ไม่รู้จะจับถืออะไรลงไปดี คว้าเสื้อสเวตเตอร์มาใส่ วิ่งเข้าไปในห้องนอนคว้าพาสปอร์ตกะแฟ้มเอกสาร หยิบเป๋าตังส์กะโทรศัพท์ ถอดปลั๊กทุกอย่าง ใส่รองเท้า ล๊อคห้อง วิ่งลงบันไดจากชั้นเจ็ด อยากบอกว่าทั้งหมดที่ว่า ทำภายในเวลาสามนาที ฮ่าๆๆ ฮ่วย ก้อคนมันตื่นเต้นไม่เคยนี่ วิ่งลงบันไดถึงชั้นหนึ่งเร็วมาก ระหว่างทางก้อมีคนออกมาถามว่าเกิดอะไรๆ “ไม่รู้ค่ะ แต่ลงไปก่อนดีก่าค่ะ” ใช่แล้วค่ะ เดี๊ยนไม่รอหาเหตุผลว่ามันเกิดอะไรขึ้นเด็ดขาด ออกไปนอกตึกดีก่า คนเค้าก็ลงมาบ้างค่ะ ไม่ลงมาบ้าง ไมอ่ะ ไม่กลัวเหรอ ก็อยากถามเค้าอยู่นะ แต่ไม่ดีก่าเด๋วเค้าจะสรรเสริญมารดาเรา


รปภ. วิ่งวุ่นเลยค่ะ สักหน่อยผู้จัดการหอก็มา ขึ้นไปชั้นที่สัญญาณดัง แล้วก้อปิดไฟสัญญาณ แล้วก้อบอกว่าทุกอย่างโอเชค่ะ มีคนไปดึงสัญญาณไฟเล่น ฮ่วย มาดึงเล่นแบบนี้มันน่ารักเกินไปแล้ว แต่ก้อไม่รู้นะว่าเป็นใคร ช่างมันเห่อะ แต่มือยังสั่นอยู่ค่ะ แล้วก้อ sms หาที่พึ่งทางใจ คือ สามีนั่นเอง อ้อนหน่อย อิอิ


สามีอยู่ในภารกิจ (อีกแระ) ยังไม่ได้รับข้อความ(จนวันต่อมา) แต่สงสัยความรู้สึกสื่อกันได้ (จริงๆ) สามีก้อโทรมาหลังจากนั้นไม่นาน ก้อเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น สามีก้อถามว่าโอเชไหม เราก้อบอกว่าเราโอเช ไม่เป็นไร เออแอบหัวเราะตัวเองด้วยนะ ที่วิ่งไปคว้าพาสปอร์ตกะแฟ้มวีซ่าก่อนทุกอย่างเลย ฮ่าๆๆ รอมานานแสนนานนี่นา ความตื่นเต้นก้อผ่านปายย


สามีก้อยังยุ่งเหมือนเคยค่ะ ตั้งแต่ย้ายมาประจำที่ใหม่เนี่ยะ งานเยอะเหลือเกิน เพราะไอ้คนที่มันทำงานค้างงานไว้เยอะ เกลียดจริงเลยคนพวกนี้ ทำใจต่อไป ถึงยุ่งเราก็ดีใจนะทีสามีเรายังส่งข้อความมาหา โทรมาหา แชตด้วย ตอนที่เค้าทำได้ ก้อคนมันคิดถึงกันเนอะ ตอนนี้เพื่อความสบายใจของเรา สามีก้อให้เราดูตารางกิจกรรมในภารกิจ จะได้รู้ว่าตอนนี้อยู่ไหน ทำอะไร บางทีก้อเจ็บใจนะที่เราไม่สามารถช่วยงานอะไรสามีได้เลย อยากช่วยได้มั้ง สามีจะได้มีงานน้อยลงและได้มีเวลาพักมากขึ้น ว่าแล้วก้ออยากกลับบ้านเร็วๆจังเล๊ยยยย


เอาล่ะ วันนี้ต้องกลับไปทำครอสติสต่อแล้วยังไม่ได้เริ่มเลยสักอันวันนี้ เด๋วขี้เกียจจะมา อิอิ

บายยยยยจ้า

Thursday, August 28, 2008

วันแห่งการบิน และ คุณลุงคุณป้า

วันแห่งการบินจริงๆเลยวันนี้ เพราะกองบินใกล้ๆบ้านเล่นซ้อมบินกันแต่เช้า เช้าเรานะ ฮ่าๆ เครื่อง F16 บินขึ้นลง วนรอบ รอบแล้วรอบเล่า จะรำคาญก้อไม่ได้เพราะเลือกที่จะมาอยู่ใกล้ๆแถวนี้เอง รับชะตากรรมต่อปายยย ท่องไว้ยอมสงบเค้าซ้อมรบเพื่อเตรียมความพร้อมในสถานะการณ์ที่ไม่คาดฝันเนอะ


เอาล่ะมาอัพเดทชีวิตนิ๊ดหนึ่งนะ สามีกลับจากภารกิจได้สองสามวันแล้วแล้วก้อได้คำชมจากลูกค้าและเจ้านายด้วยว่าทำงานดีมาก (เปลี่ยนเป็นตังส์ได้ม๊า อิอิ) แต่ยังต้องเตรียมตัวสำหรับภารกิจครั้งต่อไปเลยยุ่งๆนิดหนึ่งค่ะ พอเสร็จวันก้อเหนื่อยมาก อยากทำอะไรให้พี่ตุ้ยหายเหนื่อยจังเลย อยากอยู่ใกล้ๆกอดให้หายคิดฮอดจังเลย แต่ต้องอดทนๆๆๆ เป็นเมียพี่น้องต้องอดทน ฮ่าๆๆๆ


วันจันทร์ที่แล้วก้อคุยกะป้าแอนและลุงไมเคิล บอกข่าวเรื่องวีซ่าด้วย ป้าแอนตื่นเต้นใหญ่เลย บอกว่าถ้าอยากมารอตาตุ้ยที่บ้านก้อได้นะ คุณลุงก็ส่งเสริมอย่างแรง เพราะคุณป้าจะได้มีเพื่อนอยู่บ้านด้วยบ้าง แต่ก้อบอกท่านว่าเดียวขอคิดดูและปรึกษากะพี่ตุ้ยก่อน สามีที่รักรึจะขัดบอกว่าถ้าอยากจะทำยังงัยก้อได้จ้ะ ยังไม่รู้และยังไม่ตัดสินในเพราะยังมีสิ่งที่ต้องทำอีกเยอะเหมือนกัน อืม... คุณป้าบอกว่าไปตรวจร่างกายแบบเต็มรูปแบบมาสัปดาห์ก่อน ได้ผลยังงัยจะโทรมาบอก รู้สึกห่วงคุณป้ามากๆเลย แต่รู้ว่าคุณป้าเป็นหญิงแกร่งมากๆ คุณป้าจะสบายดีอยู่แล้ว

คุณลุงกับคุณป้าเป็นครอบครัวที่เรารู้จักมาหลายปีแล้ว และทั้งสองเป็นครอบครัวของเราจริงๆ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นคุณลุงกับคุณป้านี่ล่ะคือคนที่ให้คำปรึกษา คอยดูแลเราตลอด และเป็นคนที่จัดการกับความเอาแต่ใจของเราได้เป็นอย่างดี ฮ่าๆๆ เราดีใจที่สุดเวลาที่เห็นท่านมีความสุข อีกไม่กี่เดือนทั้งสองจะแต่งงานครบ 40 ปีแล้ว ฟังไม่ผิดค่ะ ท่านแต่งงานกันตั้งแต่ 20 ต้นๆ มาจนทุกวันนี้ ความเข้าใจและยอมรับความเป็นตัวตนของกันและกันเป็นสิ่งสำคัญของชีวิตคู่ คือสิ่งหนึ่งที่คุณป้าคุณลุงเคยบอกไว้ค่ะ

มาอัพเดทเรื่องวันนี้หน่อยเดียวลืม อิอิ หลังจากตื่นนอนก้อไปซื้อของกินที่โลตัส ไปไกลนะวันนี้ ฮ่าๆ ได้ลูกชิ้นปลา ปลากะพงแดงนึ่งมา อร่อยตามเคยแต่กินไม่หมด นั่งดูทีวีหรรษาอยู่เนี่ยค่ะ หลังจากกินเสร็จ รอสามีมาออนไลน์ เอาล่ะเล็กน้อยแค่นี้ก่อนวันนี้ มาอัพเดทเพื่อกันเจ้าตัวขี้เกียจให้ออกห่างอีกนิด อิอิ

Sunday, August 24, 2008

อีกวันผ่านไป.....



วันนี้ก้อเหมือนเดิมค่ะ ไม่ค่อยมีอะไรทำ ตื่นมาสักพักตาตุ้ยก้อโทรมาหา ดีใจสุดๆ จากนั้นก้อจัดการไปตลาดซื้อของมาทำกับข้าวกินเอง ดูขยันใช่ม๊า ฮ่าๆ กินเสร็จเกิดลูกฮึดทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า เสร็จสัพ
บ่ายมาสามีโทรมาอีกรอบค่ะ อุ่นใจทุกครั้งเลยที่พี่ตุ้ยโทรมา ก้อเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในภารกิจนี้มั้ง ไม่ค่อยสบายใจเลยเพราะเมืองที่ต้องผ่านมันไม่ค่อยจะปลอดภัยเท่าไหร่ แต่อีกล่ะไม่มีเมืองไหนที่ปลอดภัยที่สุดหรอกที่โน่น อยากมีระบบติดตามพี่ตุ้ยดีจังเลย จะได้รู้ว่าพี่ตุ้ยอยู่เมืองไหน อยู่ในเขตสีอะไร หรือว่าเป็นไอเดียที่ไม่ดีเท่าไหร่นะ อาจจะทำให้เรากังวลมากไปกว่าเดิมอีก ภารกิจนี้อย่างที่บอกว่าพี่ตุ้ยได้เป็นหัวหน้าทีม เราก้อภูมิใจอยู่นะถึงแม้จะไม่ชอบเท่าไหร่ก้อเห่อะ แต่ถ้าได้เป็นหัวหน้าทีมที่เมกานะ เราจะปิดถนนฉลองเลยมั้ง ฮ่าๆๆ





ตอนเย็นมาก้อมานั่งดูพิธีปิดโอลิมปิก อลังการงานสร้างสมราคาคุยจริงๆค่ะ ได้สักพักหนุ่มน้อยน่ามนก้อออนไลน์ ไม่ได้คุยกันนาน พอเห็นก้อทักเลย แล้วก้อคุยกันค่อนข้างนานด้วย
หนุ่มน้อยคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกค่ะ เคนนี่ ลูกชายสุดหล่อเอง รู้จักกันตั้งแต่สี่ปีที่แล้ว ตอนเค้ายังอยู่ประถมจนตอนนี้จะขึ้นมัธยมแล้ว คุยกันทั้งทางโทรศัพท์ทั้งแชตคุยกัน แต่เชื่อไหมว่ายังไม่เคยเจอกันเลย ก้อหวังว่าเร็วๆนี้นะ เคนนี่เป็นเด็กฉลาดมาก เรียนรู้ได้เร็วด้วยค่ะ แต่สุดหล่อเป็นเด็กไม่กินเนื้อค่ะ เลยผอมไปหน่อย พูดแล้วก้ออยากไปเจอเร็วๆจังเลย





เฮ่อ...ไปนั่งดูทีวีรอโทรศัพท์ตาตุ้ยดีก่า ไม่รู้จะโทรมาป่าว เพราะมันดึกแล้ว เห็นสามีทำงานหนักแล้วอยากถูกล๊อตเตอร์รี่จังเลย พี่ตุ้ยจะได้หยุดทำงานที่โน่นสักที

สวัสดีค่ะ

Friday, August 22, 2008

บ่นๆๆๆๆ


วันนี้ก้อเป็นวันเหงาๆอีกวันนะ อากาศครึ้มๆ น่านอนทั้งวัน ฮ่าๆ
วันนี้ตาตุ้ยไม่อยู่ออนไลน์เพราะมีภารกิจ คิดถึงจังเลย
เมื่อวานได้คุยกันไม่เท่าไหร่เลย เพราะพี่เค้ายุ่งมากๆ ถูกยกให้เป็นหัวหน้าภารกิจด้วย ไม่รู้เราจะแปลกกว่าชาวบ้านไหมนะ แต่เราไม่ชอบให้ตาตุ้ยเป็นหัวหน้าหรือเจ้านายอารายทั้งนั้นที่โน่น
ถ้าเป็นงานปกติธรรมดาเหมือนชาวบ้านที่เมกาเนี่ยะจะไม่บ่นสักคำ
แต่มันแตกต่างกันมากที่ทำงานปัจจุบันในตะวันออกกลาง หลายคนคิดว่าคนที่ทำงานที่โน่นจะเก่งและชำนาญทุกคนใช่ไหม อันนี้ไม่จริงค่ะ คนที่ทำงานเป็น เก่ง รู้ขั้นตอนอย่างตาตุ้ยก้อมีมาก แต่คนที่ยังหลงทางและบ่นยังกับเด็กก็ยังมีมากค่ะ คนพวกนี้ล่ะทำให้ตาตุ้ยต้องมาเสียเวลาแก้ปัญหาหรือมานั่งทำงานช่วย ยุ่งทั้งวัน ปวดหัว เครียดกว่าเดิมอีก เงินก้อยังได้เท่าเดิม
ได้เป็นหัวหน้าก้อใช่จะได้เงินเพิ่มมากเยอะนะ ไม่มีเวลามาจี้จ๊ะกับเราอันนี้สำคัญ ฮึ่ม คิดแล้วอยากเขลกกะบานพวกนี้นัก เมื่อจะได้กลับประจำที่ Zakho นะ คิดถึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เมื่อวานซัดตำมะขาม ยำมะม่วง ตำเหมี่ยง ไปอย่างสะใจ อาหร่อยมากๆ แต่ผลออกมาคือท้องเสียทั้งคืนยันเช้าต่อมาจนบ่ายยังไม่หายเลย น่าสมน้ำหน้าใช่ไหม กินสบายปากดีนัก
อีกอย่างช่วงนี้ไม่รู้เป็นงัยตั้งแต่ไปฉีดวัคซีนมาดูเหมือนร่างกายยังปรับสภาพไม่ได้ นิดหน่อยก้อรู้สึกไม่สบาย วัยรุ่นเซ็งเลย อีกเรื่องบ่นอ้วนๆทุกวันนะ แต่กินไม่หยุด เอาขนมไปซ่อนที่ไหนก้อตบะแตกประจำ เอาใหม่ๆจะเริ่มวันจันทร์นี้แล้วอยู่ในระเบียบอีกที สู้ว้อยเพิ่มเรียกความมั่นใจกลับมาอีกที

แค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวนั่งดูกีฬาดีกว่า แต่อยากจะบอกว่าคิดฮอดพี่ตุ้ยที่ซู๊ด