Thursday, November 20, 2008

ของเล็กๆที่ใหญ่ๆ....

มาด้วยหัวข้อนี้แบบทำให้งง หมายความว่างัยฟะ ของเล็กๆที่ใหญ่ๆ ฮ่าๆๆๆๆ อย่าคิดลึกนะเคอะ มาเริ่มว่าด้วยกิจกรรมที่ทำวันนี้ค่ะ วันนี้นอนเป็นเต่าในที่นอนเกือบทั้งวันค่ะ มันหนาวข้างนอกนี่นา แถมไม่มีอะไรทำด้วยนอกจากคุยกะสามีสุดที่รักทั้งวันทั้งคืน แล้วก้อได้อีเมลจากแม่ว่าจะไปกินข้าวกันไหมวันนี้ ก้อโทรกลับค่ะ สรุปจะไปกินข้าวกันที่ร้านอาหารจีน (เจ้าเก่า)ประมาณชั่วโมงกว่าๆแม่กะเอ็ดดี้ก้อมาถึงค่ะ

นั่งรถไปหิวไป ทำไหมวันนี้ทางมันไกลกว่าทุกวันฟะ ฮ่าๆ พอถึงที่ร้าน ว้าวววว.....วันนี้วันขาปู!!!!! เสร็จนังรสแน่งานนี้ หุหุหุ หนุกหนานกันใหญ่เลยค่ะ ได้สอนวิธีกินขาปูให้แม่ด้วย ทั้งหนุกทั้งหร่อยค่า ขาปูใหญ่ๆจิ้มกะน้ำจิ้ม อืมมมม ว่าแล้วก้ออยากกินอีก

เอาล่ะมาเข้าเรื่องของเล็กๆที่ใหญ่ๆกันนะคะ มันหมายถึงของสิ่งเล็กๆที่มีความหมายเกินขนาดค่ะ ระหว่างทางกลับบ้าน แม่ให้ลองสวมแหวนของแม่สองวง ปรากฏว่าใส่ได้ทั้งสองวง แม่ให้เลือกว่าชอบวงไหน ก้อบอกว่าวงนี้ แล้วแม่ก้อบอกว่า "งั้นมันก้อเป็นของเธอแล้วจ้ะ"


เป็นความรู้สึกซาบซึ้งมากๆ มันมีความหมายมากมายมากกว่าแหวนวงหนึ่งมากๆจริงๆ รู้สึกขอบคุณแม่มากๆที่เมตตาเรานะ อะไรที่มาจากใจถึงจะเล็กขนาดเท่ามด มันก้อเป็นช้างสำหรับเรา ขอบคุณมากๆค่ะแม่

Wednesday, November 19, 2008

Winnsboro Park

วันนี้อยู่บ้านค่ะ ไมค์ เอ็ดดี้ จีน่า เวนเดลมาทานอาหารเทียงที่บ้าน วันนี้ทำผัดซีอิ้วค่ะ อาหร่อย อิอิ ก้อคุยกะสามีไปด้วยค่ะ สามีก้อยุ่งเรื่องงาน อย่างให้พูดเรื่องบริษัทที่ทำงานสามีเลยค่ะ ปรอทจะแตกโมโหมากๆ

หลังจากแก๊งส์กลับ ก้อทำความสะอาดครัวเล็กน้อย คุยกะสามีจนสามีไปนอน รสก้อทำยำวุ้นเส้นทาน แซบมากๆ ต้องรีบกินเพราะจะไปถ่ายรูปที่ปาร์คใกล้บ้านค่ะ ว่าจะไปมาหลายวันแล้วแต่ไม่มีโอกาสสักที วันนี้ได้วาระค่ะ เลยเอารถประจำตำแหน่งออกไปขับไปปาร์ค ฮ่าๆๆๆ

Photobucket


ลงเนินจากทางเข้า

Photobucket

Photobucket

น้ำพุ
Photobucket

ดอกไม้ยังสวยอยู่ค่ะถึงแม้จะหนาวแว้ว
Photobucket

มองขึ้นข้างบน

Photobucket

ต้นไม้ในปาร์คค่ะ
Photobucket
Photobucket
Photobucket

ใบไม้และลูกแดงๆ
Photobucket
Photobucket
Photobucket
Photobucket

สิ่งมีชีวิตที่ชื่อว่า เป็ด อิอิ
Photobucket

Photobucket

Photobucket
Photobucket

พอแสงเริ่มอ่อนลง อากาศมันก้อหนาววววววมากขึ้นค่ะ เลยต้องรับบึ่ง BM(X)กลับบ้าน แต่ก้อมาจอดตรงหน้าบ้านเพื่อนบ้านถ่ายรูปใบไม้บ้านเค้า ฮ่าๆๆๆ

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

กลับถึงบ้านเปิดน้ำร้อนแช่ในอ่าง สบายยยยย ไม่รู้ค่าไฟค่าแกสจะเท่าไหร่เดือนนี้ ฮ่าๆ

พ่ออเล็กส์กะจินนี่

18 Nov
วันนี้เหมือนจะไม่มีอารายมากมายทำค่ะ แต่มันหาได้เป็นเยี่ยงนั้นไม่ ฮ่าๆ คุยกะสามีแต่เช้า (ต่อเนื่องจากเมื่อคืน) วันนี้มีโปแกรมว่าเวนเดลจะพาไปธนาคารเพื่อเอาเชื่อเข้าบัญชีธนาคารสามีเรา พอเที่ยงเวนเดล ไมค์ จีน่า แก๊งเดิมก้อมาที่บ้านแล้วก้อไปกินข้าวที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยนที่ในทาวน์กัน (ร้านเดิมที่ไปทุกครั้ง) ก่อนออกไปกินข้าง อเล็กส์กับจินนี่ก้อโทรมาถามว่าว่างไปกินข้าวเย็นด้วยมั๊ย ก้อบอกว่าว่างค่ะ น้าน งานเข้าอีกแว้ว ฮ่าๆ


วันนี้หนาวมากๆๆค่ะ ลมด้วยอีกตะหาก บรื๋อๆๆๆ กินข้าวเที่ยงเสร็จก้อไปธนาคารกันค่ะ ต้องรอคุยกะ member service ต้ะงชั่วโมงเลย เพราะมีคนเข้าไปก่อน จนผู้จัดการสาขาต้องออกมาต้อนรับ เพราะดูหน้าช้านแล้วคงไม่ค่อยรับแขก ฮ่าๆ เอาย่อๆนะคะ สรุปยังใส่ชื่อเข้าบัญชีสามีไม่ได้ค่ะ เพราะผู้แทนโดยชอบธรรม ไม่สามารถทำได้เป็นหนึ่งในห้าข้อที่ทำไม่ได้คะ ตรูจะถอนมันออกมาหมดดีไหมจากธนาคารนี้เนี่ยะ แต่เราต้องใจเย็นค่ะ เพราะมันทำอาหารไม่ได้อยู่ดี ปลง....ฮ่าๆๆๆ
ออกจากธนาคารก้อไปซื้อของมาทำกับข้าวที่ Walmart ค่ะ พอกลับถึงบ้าน จะเอาถังขยะใหญ่ไปเก็บหลังบ้าน อเล็กส์กะจินนี่ก้อถึงพอดีเลย


ทักทายกันเสร็จก้อพาทัวร์บ้านค่ะ ทุกซอกทุกมุมเลย ฮ่าๆ ไม่นานเวนเดลก้อขอตัวกลับบ้านเพราะมีธุระ สักพักน้อยๆผ่านไปอเล็กซ์กะจินนี่ก้อพาขับรถไปทานข้าวในเมืองค่ะ ทีแรกกะจะพาไปทานที่ Texas Road House แต่ร้านนี้สงวนลิขสิทธ์ค่ะ สามีต้องพาไปกินเป็นคนแรก สรุปไปร้าน O’Charlie กันค่ะ เมนูที่สั่งวันนี้เป็น ปลาไซม่อนอบค่ะ กินไม่หมดใส่กล่องกลับบ้านเหมือนเดิม ฮ่าๆๆ
ระหว่างทางไปกลับและอยู่ที่ร้านก้อคุยและทำความรู้จักกับอีกฝ่ายหนึ่งครอบครัวสามีค่ะ ท่านใจดีเป็นกันเองกะรสมากๆค่ะ

สุดสัปดาห์แห่งเฟอร์นิเจอร์ ฮ่าๆ

15 nov
วันนี้เป็นวันยุ่งอีกวันค่ะ โปรแกรมของวันนี้คือไปดูเฟอร์นิเจอร์ที่ รูม ทู โก ใน Sandhill Village ค่ะ แต่แวะทานข้าวที่ร้านบุฟเฟ่จีน (อีกแล้ว) แต่คราวนี้ไปร้านใหม่ค่ะ แต่ว่าอาหารไม่ค่อยประทับใจโจ๋เท่าไหร่ค่ะ พอกินเสร็จก้อไป Sandhill กัน มัน เป็นศูนย์การค้าค่ะ แต่ว่าทำเป็นรูปแบบหมู่บ้าน คือจะไม่เป็นห้างค่ะ จะมี outlet ต่างๆเรียงรายกันเหมือนเป็นหมู่บ้านยังงัยยังงั้นค่ะ หญ่ายยยยโต มโหฬารมากๆค่ะ แม่ไม่ได้ไปทำงานด้วยวันนี้ก้อเลย เอ็ดดี้พาขับรถวนดู outlet ต่างๆจนสะใจ ฮ่าๆ
จากนั้นก้อไปที่ รูม ทู โก ตามโปรแกรมค่ะ ใช้เวลาในนั้นประมาณ 3 ชั่วโมง เดิน นั่ง นอน ลองเฟอร์นิเจอร์เค้าเกือบหมดทั้งร้านเลยก้อว่าได้ จน ได้แพคเกตเฟอร์นิเจอร์พร้อมราคาที่น่าสนใจเหลือเกิน ฮ่าๆ พนักงานบอกว่าให้สามีไปขอเครดิตออนไลน์ได้เลย เสร็จแล้วก้อเอาหมายเลขมาสั่งของทั้งหมดพรุ่งนี้ หุหุ เสร็จนังรสแน่
หลังจากนั้นก้อให้เอ็ดดี้พาไปร้านเอเชียซื้อของค่ะ เพราะไหนๆก้ออยู่ในเมืองแล้ว เลือกของเค้าอยู่นานจนเจ้าของร้านมาบอกว่าเด๋วจะปิดร้านแล้วนะ ฮ่าๆ แต่ก้อได้ของมาพอสมควรค่ะ แต่พวกของสดไม่ค่อยมีค่ะ ออกจากร้านเอเชียก้อบึ่งรถกลับบ้านกัน พอถึงบ้านก้อคุยกะแม่กะเอ็ดดี้สักแป๊บ แม่กะเอ็ดดี้ก้อกลับบ้าน ส่วนตัวเองก้อตามสูตรค่ะ โดดขึ้นเตียงหลับ แล้วก้อตื่นมาคุยกะสามีตามสเตป อิอิ


16 nov
วันนี้เป็นวันแห่งเฟอร์นิเจอร์อีกวันค่ะ แม่กะเอ็ดดี้มาตอนสายๆ ตอนเช้าทั้งหมดก้อหมดไปกะการเข้าเวปไซต์ของรูม ทู โหเพื่อทำเครติด แต่ยังงัยก้อไม่ได้ค่ะ เลยโทรหาพนักงานขายที่ร้านเมื่อวานนี้ อืม..ทีแรกก้อเย็นอยู่ค่ะ เค้าก้อบอกให้ใส่รหัสไปรษณีอื่น ก้อทำ แต่ยังงัยก้อทำไม่ได้ โทรกลับไป ก้อบอกเดี๋ยวให้เค้าเข้างานก่อนแล้วจะถามผู้จัดการให้ รอ แล้ว รอฮ่ะ ระหว่างที่รอก้อคุยกันว้าถ้าไม่ได้เครดิตจะจ่ายจำนวนหนึ่งซึ่งมากพอควรแลที่เหลือจะใช้เครดิต
นานพอควรไม่ได้มีใครโทรมาเลย แล้วแม่เลยโทรกลับไป เธอก้อรับสายและบอกว่ากำลังถามผู้จัดการอยู่ แม่บอกว่าถ้าได้ลูกสะใภ้ชั้นจะสั่งทั้งหมดที่ไปติดต่อไว้เมื่อวาน ทีนี้เธอเต้นเลยค่ะและบอกว่าขอเวลาสามสิบนาที รออีกแล้ว ฮ่าๆ ระหว่างที่รอก้อทำกับข้าวให้แม่กะเอ็ดดี้ทาน เป็นเนื้อผัดพริกเผากะต้มยำไก่ ทั้งอร่อยทั้งเช็ดเหงื่อกันไปเพราะมันเผ็ด

จากนั้นเธอก้อโทรมาบอกว่าเวปไซต์ที่สมัครเครดิตวันล่ม เอาเงินมามัดจำออเดอร์ก่อนก้อได้ หุหุ ตลกแล้วแม่คุณ สรุปไม่เอาแล้วคับ รูม ทู โก สาขานั้น พอกินเสร็จก้อไปแถว Harbison กันค่ะหาร้านขายเฟอร์นิเจอร์ ไปร้านหนึ่ง ไม่ถูกใจก๋ค่ะแถมแพงอีกต่างหาก ตลอนไปทั่ว แต่ก้อไม่เจอที่ถูกใจสักที เลยบอกเอ็ดดี้ลองไปรูม ทู โก สาขา Harbison ดูดีกว่าว่ามันจะเป็นงัย
เข้าไปก้อเจอพนักงานไวกลางคนคนหนึ่ง โอมายกอด มันช่างต่างกันเหลือหลาย เธอคนนี้ยังช่วยให้เรามีเครดิตขิงตัวเองด้วยตั้ง 2,500 เหรียญแน่ะ วันกะจะสั่งของโดยใช้เครดิตทั้งหมดแล้วก้อเงินสดด้วย ปรากฏว่าใช้เช็คของสามีไม่ได้ เพราะมันต้องเป็นชื่อเรา เอาละสิงานนี้หน้าเหี่ยวอีกแล้ว พนักงานเค้าก้อใจเย็นนะ เค้าบอกว่าเวปไซต์อ่ะไม่มีปัญหาอะไร ให้สามีเราขอเครดติออนไลน์ได้ แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาจัดการทั้งหมดทีเดียวเลย เค้าจะช่วยเต็มที่


อืม มีความพยายามในการช่วยเราสูงอย่างงี้กลับมาแน่นอน ฮ่าๆ พรุ่งนี้ก้อพรุ่งนี้ฟะ
ออกจากร้านก้อไปหาของกินค่ะ ไปกินบาบิคิวกัน ยังอิ่มอยู่หลาย ฮ่าๆ สรุปกินได้ไม่กี่คำไอ้ที่เหลือก้อต้องใส่กล่องกลับบ้านตามเคย
แม่กะเอ็ดดี้มาส่งที่บ้านแล้วก้อพากันกลับบ้านคะ หงอมกันทั้งหมดเลย นอนไม่ฝันเลยงานนี้


17 Nov
วุ่นวายแต่เช้าค่ะวันนี้เพราะอารายอีกล่ะ ก้อเครดิตนั่นล่ะค่ะ เอารหัสไปรณีย์เมืองในก้อไม่ได้ซักที หงุดหงิดสิคะ ได้เวลาศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ของร้านเปิด เราก้อโทรเลยค่ะ ได้ความว่า นอร์ทและเซ้าท์ แคโรไลน่า ยังไม่เปิดบริการเครดิตออนไลน์ของร้าน ฮ่วยแล้วมัยไม่บอกบนเวปไซต์ให้มันชัดๆไปเลยล่ะแม่คู๊น
ทีนี้เลยเอารหัสไปรษณีย์นิวยอร์กดู เว่เห้ ใบสมัครเครดิตออนไลน์ป๊อบอัพมาเลย ให้มันได้งี้สิฟะ เราก้อกรอกๆๆๆๆข้อมูลแฟนให้หมด สุดท้ายเค้าบอกว่ายังดำเนินการอนุมัติไม่ได้ต้องให้คนที่สมัครติดต่อกลับ งานนี้คุณสามีก้อเต้นเลยครับ โทรนะบัดนั้นเลย สรุปก้อได้อนุมัติค่ะ เฮ้อ กว่าจะได้ มีอะไรที่มันง่ายกะเค้าม้างมั๊ยเนี่ยะ
จากนั้นเอ็ดดี้ก้อพาะธนาคารเบิกเงินสด ต่อจากนั้นก้อกลับไปที่ร้านเดิม ก้อเจอเธอเช่นเดิม ฮ่าๆๆ สรุปก้อทำการออร์เดอร์ได้ทั้งหมดค่า กว่าจะเสร็จก้อนานพอควรเพราะมีเพิ่มของในรายการด้วย อิอิ


จัดการเสร็จก้อจะพาเอ็ดดี้ไปกินข้าวที่ outback ปรากกฎว่ายังไม่เปิดคับ ก้อคุยกะสามี สามีก้อบอกไปเดินดูของที่ Pair1 นะ มันอยู่ติดกันกะที่จะไปกินข้าวค่ะ เลยเดินเข้าไปในร้าน ตะลึงๆๆๆๆๆ เพราะมีแต่ของดีๆทั้งน้านนนน เดินดูของไปคุยกะสามีไป บันทึกรายการในสมองของที่จะกลับมาเอาไปด้วย ฮ่าๆ วางสายกะสามีแล้วก้อยังเดินดูของไปเรื่อยๆค่ะ ฆ่าเวลารอร้านอาหารเปิดด้วย
พอถึงเวลาร้านอาหารเปิดก้อเข้าไปในร้านค่ะ วันนี้เมนูที่ส่งเป็น Victoria’s crowned filet ท๊อปด้วย Blue cheese อิอิ ก่อนหน้านั้นสั่ง Blooming Onion ค่ะ โอกินได้ครึ่งหนึ่งก้อเกือบจุแล้วคะ แถมมีซุปอีก วันนี้เลยได้ลองทาน Clam Chowder ค่ะ อูยยยย อหร่อย ปรากฏว่าอิ่มตั้งแต่ตอนนี้แล้วค่ะ พอเสต๊กมา ทานได้ สามค่ำ จุกมากๆเลยขอใส่กล่องกลับบ้านเหมือนเคยย


กินเสร็จต่างคนต่างจุกค่ะ ขับรถกลับบ้านต้องคอยคุยกะเอ็ดดี้กลัวเค้าหลับ ฮ่าๆ กลับถึงบ้าน ก้อ นออนนนนค่ะ แล้วก้อตื่นมาเม้าส์กะสามีบ้าง ฮ่าๆ หมดไปอีกหนึ่งวัน

Friday, November 14, 2008

อัพเดทต่อจ้า....(ปัจจุบันซักที...อัพเดทมาราธอนมานาน...ฮ่าๆ)

นี่ก้อ 10 กว่าวันแล้วค่ะที่ย้ายเข้ามาบ้านตัวเองอย่างเป็นทางการ หลายวันที่ผ่านมาก้อมีเอ็ดดี้มาช่วย และก้อเป็นคนขับรถพาไปนั่นไปนี่ ช่างเป็นผู้ใหญ่ที่ใจดีจังเล๊ย แถมทิ้งอุปกรณ์ช่างไว้ให้ใช้ด้วย เราก้อเป็นประเภทอยู่ไม่ค่อยสุขอยู่แล้ว ฮ่าๆ ก้อทำอะไรที่ทำได้ไป เด๋ววานคนแก่มากไปมันไม่ดี อิอิ
หลายอย่างก็เสร็จหมดแล้วค่ะ ประกอบกับฝนตกมาสองวันแล้ว เอ็ดดี้เลยไม่มา ก้อเลยดูเหมือนอะไรๆมันซาๆลง มีเวลาถ่ายรูปเล่นบ้างค่ะ
Pecan ที่หล่นหลังบ้านค่ะ เหลือจากปากกระรอกทั้งหลายPhotobucket
ต้นไม้หลังบ้านเพื่อนบ้านค่ะ มันสวยดีตัดกับสีฟ้าครามของฟ้าPhotobucket
ต้นไม้หลังบ้านค่ะPhotobucket
ดอกไม้ข้าง drive wayPhotobucket
ปิดท้ายด้วยใบไม้บน mailbox ค่ะPhotobucket



ตอนนี้ก้อทำอาหารเที่ยงเลี้ยงเพื่อนเป็นประจำเพื่อเป็นการตอบแทนที่เค้าช่วยเรามานานค่ะ ก้อเป็นอาหารไทยนี่ละค่ะ บางทีก้อประยุกต์บางอย่าง เพราะหาซื้อของบางอย่างยังไม่ได้ค่ะ ต้องรอเข้าไปตะเวนที่ในเมืองใหญ่อีกทีค่ะ แต่คนกินชอบใจในรสชาดค่ะ ทำให้คนทำพลอยหน้าบานไปด้วย อิอิ รอแต่สามีกลับบ้านเนี่ยะแร่ะจะได้ทำกับข้าวดีๆให้ทานซะที ว่าแล้วก้อคิดฮอออดเด้....อิอิ

อัพเดทรวมจ้า.....

ตอนนี้ก้อเข้าสัปดาห์ที่ 4 แล้วนะคะ ตั้งแต่มาถึงเมกาวันแรก สัปดาห์แรกๆก้อเจ๊ตแล็คเต็มที่ค่ะ ไม่รู้เวลาไหนเป็นเวลาไหน ฮ่าๆ ทั้งๆที่ตอนอยู่เมืองไทยก้อนอนกลางวันตื่นกลางคืน สงสัยร่างกายมันปรับยังไม่ได้มั้งคะ แต่โชคดีหน่อยที่ไม่ป่วย อิอิ
23 Oct
หลังจากวันแรกที่มาถึง ก้อมีงานเข้าตลอดค่ะ มีอะไรทำตลอดเวลา ไม่มีเวลาเหงาเลย รุ่งเช้าจากวันที่มาถึง จีน่าก้อมารับไปทำธุระกัน แต่ปรากฏว่าเมารถฮ่ะ ฮ่าๆๆ เสียฟอร์มมาก นั่งเครื่องเป็นยี่สิบชั่วโมงไม่เมา มาเมาตอนนั่งรถเนี่ยะนะ ต้องแวะพักที่ร้านที่เวลเดลทำงานอยู่ พอรู้สึกดีขึ้นก้อไปดูมือถือกัน และได้มือถือมา อิอิ เพราะ ginger ale ค่ะที่ทำให้รู้สึกดีขึ้น มันก้อเลยกลายเป็นน้าประจำกายเหมือนเด็กมีขวดนมยังงัยก้อยังงั้นไปนานพอสมควรค่ะ
แต่ละวันที่ผ่านไปก้อมีอะไรทำมากมายค่ะ ไม่รู้ทำอะไรนักหนาเนอะ ฮ่าๆ ส่วนมากก้อจะเรื่องบ้านค่ะ
26 Oct
มาได้สามวันก้อได้ไปเจอหนุ่มน้อยหย้าจ่อย ฮ่าๆๆ เจ้าลูกชายนั่นเองค่ะ ดีใจมากๆเลยค่ะ เพราะในที่สุดก้อได้เจอตัวเป็นๆซะที หลังจากที่คุยกันทางเนตบ้าง โทรศัพท์บ้าง เวปแคมบ้างมานานหลายปีแล้ว เคนนี่โตเป็นหนุ่มแล้วค่ะ เร็วๆนี้คาดว่าจะสูงกว่ารรสแล้ว ตอนเจอหน้าครั้งแรกนี่ เหอๆๆ ไม่ได้คิดค่ะ กระโดดกอดลูกเลย ฮ่าๆ ไม่รู้ทำให้เคนนี่ตกใจกลัวอ่ะป่าว แหม ก้อคนมันดีใจที่ได้เจอนี่นา
Photobucket
Photobucket

จากนั้นเราก้อพากันจะไปกินข้าวที่ร้านอาหารไทย ไปถึงปรากฏว่า ปิดบริการวันอาทิตย์ เออ..แปลกนะเมืองนี้ ร้านอาหารปิดวันอาทิตย์ จะไปกินร้านอาหารแม็กซิกันก้อดันปิดวันอาทิตย์อีก ให้มันได้งี้สิฟะ สรุปลงเอยที่แอปเปิ้ลบีส์ค่ะ
Photobucket
พอเสร็จก้อพาเคนนี่ไปช๊อปปิ้งของฮาโลวีนค่ะ อืม เคยบอกลูกไว้หายทีแล้วว่าจะซื้อ MP3 อันใหม่ให้ วันนั้นเลยได้ฤกษ์ค่ะ ซื้อให้ใหม่เลย ไม่รู้ลูกจะคิดว่าเราพยายามซื้อของเพื่อให้เค้าชอบเรารึป่าวนะ เพราะไม่มีความคิดแบบนั้นเลย อยากให้ลูกได้สิ่งที่เค้าอยากได้เท่านั้นเอง แต่เคนนี่เป็นเด็กน่ารักค่ะ เกรงใจและจะซื้อเท่าที่อยากได้จริงๆ
Photobucket
พอได้ช๊อปเสร็จก้อไปบ้านแม่เคนนี่ค่ะ เซอร์ไพรส์มากๆค่ะ เพราะเคนนี่เตรียมดอกไม้ไว้ให้ ดีใจสุดๆเลยเพราะเป็นดอกไม้ช่อแรกในรอบปีที่ได้
Photobucket
จากนั้นก้อนั่งคุยกะเคนนี่น้อยพอสมควรก้อได้เวลาจรลีกลับบ้านเวนเดล เสียดายน่าจะมีเวลาได้อยู่กะลูกมากกว่านี้ เจ็บใจที่ขับรถไม่เป็น มาหาลูกเองไม่ได้ เพราะไม่รู้จักทาง ไปไหนมาไหนเองไม่ได้ อึดอัดว้อยยยยย

29 Oct
วันนี้แม่สามีกะพ่อเลี้ยงมาหาที่บ้านเวนดลคะ แล้วก้อพากันมาดูบ้าน จากนั้นก้อถึงเวลากินค่ะ ฮ่าๆๆ ขับรถไปโคลัมเบียจะหาอะไรทานกัน สรุปลงท้ายด้วยบุปเฟ่จีน กินจนพุงกางค่ะ แทบกลิ้งออกมาจากร้านเลย ฮ่าๆ
Photobucket

30 Oct
วันนี้มาบ้านตามเคยค่ะ สามีบอกให้ลองใช้เตาผิงดู เออมาก้อหลายวัน หนาวกันอยู่ได้ไม่มีใครคิดออกเลย จุดไฟเตาผิง เอาไม้มาใส่แล้วมันพะยะค่ะ แถมอุ่นด้วย ฮิฮิ
Photobucket
วันนี้ก้อมีเรื่องตื่นตัลค่ะ เพราะตอนบ่ายแก่ๆมีคุณปู่คนหนึ่งขับรถมาจอดที่ลานหญ้าหน้าบ้าน (ไม่มีมารยาทมาก) อืม ไม่พอแถมมาหาว่าบ้านเป็นบ้านของแกอีก เหอๆๆๆ ไอ้เราก้อตกกะใจ มาได้งัยหว่า แต่ไมค์ก้อเล่าว่าปู่แกเป็นอัลไซเมอร์และมีบ้านหลายหลังจนจำไม่ได้และชอบขับรถตะเวนเมืองดูบ้าน วันดีคืนดีก้อโทรศัพท์ไปหาเลขาให้ซื้อบ้านหลังที่ตัวเองเป็นเจ้าของซะนี่ เยอะเกินไม่รู้ว่าเป็นเจ้าของหลังไหนค่ะ แต่คุณปู่ค่ะบ้านหลังนี้อ่ะของหนูกะสามีค่า
Photobucket
วันนี้นอนที่บ้านเป็นคืนแรกด้วยค่ะ หนาวได้ใจแต่มีความสุขดีค่ะ นอนในถุงนอนด้วยค่ะ อิอิ แต่ก้อแสนจะมีความสุขค่ะเพราะได้นอนบ้านตัวเองมันเป็นอะไรที่อธิบายไม่ได้ด้วยวาจาและอักษรค่ะ ดีใจค่ะจนบอกไม่ถูกค่ะ

31 oct
วันแห่งการรอคอยก้อมาถึง เย้ๆๆๆ เค้ามาติดตั้ง Heater กะ AC ให้แว้วค่ะ ส่วนราคาไม่บอกนะคะว่าเท่าไหร่เพราะเด๋วหายาดมไม่ทัน ฮ่าๆๆ อืม เสร็จไปอีกอย่าง เด๋วก้อย้ายเข้าได้แว้ววววว
Photobucket

3 Nov
ในที่สุดวันแห่งการรอคอยอีกวันก้อมาถึง ย้ายเข้าบ้านแล้วค่า เย้ๆๆๆๆๆ จัดการเก็บกวาดของในห้งสามีที่บ้านเวนเดลย้ายมาที่บ้านอย่างเรียบร้อยค่ะ ด้วยความช่วยเหลือของเวนดล เอ็ดดี้ แล้วก้อเพื่อนของเวนเดล ย้ายมันกลางฝนตกแร่ะค่ะ ดีนะที่ตกไม่เท่าไหร่ เป็นวันที่แสนเหนื่อยอีกวัน แต่ก้อมีความสุขดีมิใช่น้อยค่ะ

4 Nov
วันนี้เป็นวันแห่งตู้เย็นและ water heater ค่ะ ก้อเจ้าอันเดิมที่มีที่ว่าใช้ได้มันดันใช้ไม่ได้งัยคะ ต้องต้มน้ำอาบตั้งแต่ย้ายเข้ามาเลย ฮ่าๆๆๆ เหมือนตอนเป็นเด็กๆเลยเวลาหน้าหนาวที่ไรต้องต้มน้ำอาบทุกที โทรส่งตั้งแต่โฮมดีโปท์เปิดทำการค่ะ เลยสามารถติดตั้งได้ภายในวันเดียว รวดเร็วถูกใจนักแล ส่วนตู้เย็นนี้ก้อกลายเป็นเรื่องใหญ่ไป ต้องวานให้โรเบิร์ตมาช่วยพาไปซื้อที่โฮมดีโปท์ ปล่อยให้เอ็ดดี้คอยดูคนที่มาติดตั้ง water heater ที่บ้านไป ต้องไปเอาตู้เย็นที่โฮมดีโปร์ใหญ่ค่ะ ก่อนไปก็โทรถามพนักงงานก่อนว่ามีรุ่นนี้ ยี่ห้อนี้มั้ย ราคาเท่าไหร่ พอไปถึงพนักงงานคงจำได้เลยพูดแกมตลกว่า “Are you the woman on the phone with ten thousand questions??” ฮ่าๆๆๆ เดี้ยนนี่ล่ะค่ะ ได้ตู้เย็นก้อใส่เทรเล่อร์ที่โรเบิร์ตพ่วงมาบริการจากบ้าน รอบคอบมากค่ะ กลับมาบ้าน เย้ๆ มีน้ำอุ่นใช้แล้วค่า จากนั้นก้อจัดการเอาตู้เย็นเข้าที่ ปรากฏว่าเข้าประตูทางเดินไปครัวไม่ได้ ต้องถอดประตูทั้งสองข้างของตู้เย็นออก ถอดประตูเข้าโถงทางเดินด้วย ฮ่วย....ม่ายถอดมากมายงี้ฟะ แต่สุดท้ายมันก้อไปอยู่ในที่ตู้เย็นแล้วก้อเริ่มทำงานนนน อิอิ ถึงเวลาซื้อของมายัดตู้เย็นแว้วววววว... สรุปคือสิ่งพื้นฐานที่จำเป็นแล้วค่ะ เล่นเอาหมดเหงื่อไปหลายถังเหมือนกนันนะคะกว่าจะจัดการกะสิ่งต่างๆเหล่านี้ได้

การเดินทางกะบ้านนนนนนนนของงงงช้านนนนน.....

ยาวหน่อยนะคะเพราะดองมาวันนานแล้วค่ะ แฮ่ะๆ


มาแล้วจ้า แฮ่ๆ หลังจากที่ไม่ได้อัพเดทมานาน วันนี้เลยขออัพเดทชีวิตหน่อยจ้า ตอนนี้มาปรากฏตัวอยู่ที่อเมริกาแว้วจ้า รวดเร็วมากใช้ไหมคะ โดนส่งเด้งกลับบ้านด่วนโดยสามีอันเนื่องจากความไม่น่าไว้วางใจของสถานการณ์บ้านเมือง เอาแบบย่อๆเลยนะคะ มีเวลาเตรียมตัวมาเมกาแค่ 9 วัน ก่อนหน้านี้ก้อเอ้อละเหยอยู่เพราะจริงๆกำหนดเดินทางมันโน่นเดือนธันวา แต่ไม่เป็นไรสีทำได้ ฮ่าๆๆ เก็บของทั้งหมดกลับไปไว้บ้านแม่ที่อุดร จากนั้นก้อมาเดินทางมานี่เลย


ตอนอยู่ที่บ้านที่อุดร วันแรกที่ถึงดีใจที่สุดเลยเพราะได้เจอหลายชายน้อยเป็นครั้งแรก น่ารัก อารมณ์ดีสุด (ยกเว้นตอนอีป้ามันปลุกกลางดึกมาเล่นด้วย ตอนที่มาถึงวันแรก) ยิ้มให้คนเค้าไปหม๊ด เป็นขวัญใจในซอยไปเลย

Photobucket

Photobucket

อยู่บ้านแม่ได้ไม่กี่วันก้อต้องออกเดินทาง นั่งเครื่องจากอุดรมากรุงเทพ นั่งชั้นธุรกิจด้วยนะ ฮ่าๆ เพราะคำนวณแล้วนั่งชั้นประหยัดแล้วจ่ายค่าน้ำหนักกระเป๋าเกินมันพอๆกะนั่งชั้นธุรกิจแล้วจ่ายค่ากระเป๋าเกิน แม่กะน้องพร้อมญาติและเด็กๆมาส่งที่สนามบิน กลัวน้ำตาจะท่วมสนามบินเลยต้องเข้าไปข้างในรอขึ้นเครื่อง แอบน้ำตาเล็ดเล็กน้อย หุหุ มาถึงกรุงเทพก้อได้มานั่งพักนิดหนึ่งที่สุวรรณภูมิ คุยกะสามีไปเรื่อยจนกระทั่งเช็คอิน จากนั้นก้อตรวจพาสปอร์ตแล้วก้อเดินหาเกต โอแม่เจ้ามัยมันไกลงี้ฟะ หิวน้ำด้วย ลากกระเป๋าที่เต็มไปด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ x-box ทั้งหลาย และมีกระเป๋าคอมพิวเตอร์ กระเป๋ากล้อง และตามด้วยกระเป๋าถือ บ้าหอบมั้ยล่ะนั้น หนักเอาการค่ะ แต่สีทนด้ายยยยยย

อ้อ ลืมบอกค่ะว่ามากับ Korean Air แต่จองตั๋วทาง expedia และ เดลต้าแอร์เป็นคนออกตั๋วให้ กลับมาที่การเดินทาง พอหาเกตได้ ก้อคุยกะสามีต่อ จริงๆคุยกันตั้งแต่ตรวจพาสปอร์ตเสร็จโน่นละคะ มาราธอนจริงๆ ฮ่าๆ ก้อคนมันคิดถึงกานนนนี่นา


ได้เวลาขึ้นเครื่องก้อหิวสัมภาระขึ้นเครื่อง ได้ที่นั้งค่อนข้างสบายหน่อยค่ะ เพราะเป็นสี่ที่นั่ง แต่มีคนนั่งแค่สองคน อิอิ เสร็จนังสี แบ่งกันคนละสองที่นั่งไปเลย เหนื่อยน่าดูชมค่ะ ได้ที่นั่งเป็นหลับเลย เครื่องเทคออฟ รู้สึกว่าสั่นๆอยู่ค่ะ แต่หลับต่อ ฮ่าๆๆ จากนั้นก้อหลับๆ ตื่นๆ กินๆ ดื่มๆ


ห้าชั่วโมง กว่าๆผ่านไป ก้อถึงโชลค่ะ มีเวลาต่อเครื่องแค่ 30 กว่านาที วิ่งแถบตับแล่บกว่าไม่ทัน แต่ก้อทันค่ะ ได้นั่งพักนิดหนึ่ง แล้วเค้าก้อเรียกขึ้นเครื่อง พอขึ้นเครื่องเสร็จ รู้สึกว่าอากาศจะไม่เป็นใจ เพราะนั่งรออยู่ในเครื่องพอสมควรกว่ากัปตันจะเอาเครื่องขึ้น พอเครื่องขึ้นแล้วก้อ ตามสเตปค่ะ กิน หลับ ดืม ดูหนัง ซ้ำๆไป นานนนนนนมาก แต่อาหารอร่อยดีค่ะ อาหารกาหลีทั้งนั้น


13 ชั่วโมงผ่านไป นอนดู Iron man ยังไม่จบลย ฮ่าๆ เครื่องลงที่ Atlanta ค่ะ ลงเสร็จก้อเดินๆๆๆๆ มาด่าน ตม. เดินเฉิบเข้าช่อง US Citizen and Residence ไปเลย พอใกล้ถึงคิว เจ้าหน้าที่หญิงคนหนึ่งดูพาสปอร์ตแล้วก้อบอกว่าต้องไปช่อง visitor ก้อเถียงเค้าอีกว่า ไอ ม่ายช่ายย visitor นา เจ้าหน้าที่ก้อบอกว่า เค้า process กรณีอย่างคนช่องนี้ เออ....ไม่เถียงแร่ะ ว่านอนสอนง่ายก้อได้ อ่ะจ้ะ ก้อยืนรอคิวอยู่ ปรากฏว่าคนที่ก่อนหน้ามันปัญหาสักอย่างนี่แร่ะ เลยช้ามาก ช่องอื่นๆเกือบหมดแร่ะ โธ่ อุตสาห์มาเข้าแถวเป็นคนหน้าๆ พอถึงคิว เจ้าหน้าที่ดูๆแล้วก้อเขียนหมายเลขลงในแพคเกตที่ได้จากสถานทูต แล้วบอกว่าวี่ซ่าของสี process ข้างล่างนะ เอากระเป๋าแล้วเดินตามช่องไป จ้าท่าน ตม.

เดินต๊อกๆๆ แล้วก้อไปเอากระเป๋า มัยมันหนักงี้ฟ่ะ ฮ่าๆ ไม่มีใครช่วยยกเลย พลังหญิงเหล็กทำเองเลย อิอิ

จากนั้นก้อเดินไปเช้าช่องเช็คเอกสาร declare เจ้าหน้าที่ก้อเอาเอกสารใส่แฟ้มพลาสติคแล้วก้อให้เดินไปตามเส้นสำน้ำเงิน ทำตามอย่างอินโนเซ้น หุหุหุ


รอพักหนึ่งก้อมีเจ้าหน้ามารับเอกสาร แล้วก้อบอกให้นั่งรอ เจ้าหน้าที่อัธยาสัยดีค่ะ รอ สักพักเจ้าหน้าที่ก้อเรียกชื่อพร้อมให้ไปเซ้นเอกสาร และอธิบายว่าเด๋วการ์ดจะส่งไปที่บ้านนะ พร้อมกับ SSN ถ้ารีบก้อไปขอ SSN เองได้เลย ไม่มีปัญหา พร้อมบอกว่าต้องยื่นของถอนเงื่อนไขในการ์ดเมื่อไหร่ แล้วก้อปล่อยตัวไปโดยไม่มีการเอาเป๋าเราเข้าเครื่องเช็คของแสลง อิอิ


เดินออกมากเลี้ยงขวาไปทางต่อเครื่องค่ะ โหลดกระเป๋า จากนั้นก้อเดินออกมาทางออกไปขึ้นรถไฟไปหาเกต เอาละค่ะงานเข้า เพราะมันสับสนนิดหนึ่ง ฮ่าๆ ลงรถที่ชุมทางเกต D แล้วก้อเดินๆๆๆ เอ๊ะ มันยมันเกือบถึง E แล้วอ่ะ เอ้า...เดินกลับไปใหม่ดีกว่า เหม่ ตรูเดินเลยบันไดเลื่อนขึ้นไปเกต D ทั้งหลายนี่เอง

พอถึงเกตก้อนั่งแหม่ะอยู่ตรงน้านล่ะค่า แต่ไม่ง่วงค่ะขอโบก เพราะคนมันตื่นเต้น ฮิฮิ เอ้าได้เวลาบอร์ดดิ่งขึ้นเครื่องอีกแว้ว ลำที่เท่าไหร่แล้วเนี่ยะ ตอนขึ้นเครื่องต้องออกมาขึ้นเครื่องเหมือนแอร์เอเชียสมัยก่อนบ้านเราอ่ะค่ะ แต่นี่ไม่ต้องนั่งรถ แค่เดินลงบันไดแล้วขึ้นเครื่อง โดนอากาศสดๆของเมกาเจ้าค่ะ หนาวววววววเย็นนนน ลมด้วยยยย รีบเดินขึ้นเครื่องเล๊ยนังสี เครื่องจากแอตแลนต้ามาโคลัมเบียเล็กค่ะ 24 ที่นั่งเอง รำคาญคนที่นั่งข้างๆมาก คุยตลอดศกเลย งีบก้อไม่ได้งีบ พนักงานแจกถั่วหนึ่งถุง อิอิ หมดถุงก้อถึงโคลัมเบียจ้า ฮ่าๆๆๆ ลงเครื่องได้แด่วไปเอากระเป๋าเลย ได้กระป๋าเสร็จ มองๆๆๆหาคนที่มารับ ม่ายมีอ่ะ เอ้าลองเดินข้างนอกดิ ม่ายมี ฮ่วยยย ไปไสกันหว่า ถามคนที่นั่งอยู่เค้าบอกว่าอาจรอที่ข้างบนก้อได้ คือ สนามบินพิสดารค่ะ มาเจอกันก่อนแล้วค่อยลงไปรับกระเป๋าข้างล่างก้อได้


สีก้อเข็ญรถกระเป๋าจะขึ้นข้างบนค่ะ เข็ญๆๆๆเข้าไปข้างไหนลืบ เจอลิพท์ มัยไม่ขึ้นชั้นสองฟะ ออกก้อได้ เข็ญออกมา ที่รอรับกระเป๋าถามพนักงานลิพท์ที่ใช้ได้อยู่ไหน เค้าก้อบอกแล้วก้อขึ้นข้างบนได้ โก๊ะจริงๆ ฮ่าๆ ขมาถึงข้างบน แง่วม่ายเห็นใครเลย มองหาโทรศัพท์ หงิ ตรูไม่มีเหรียญ หน้าแห้งไปหลายหลาค่ะ แล้วจะไปไหนเนีย่ะถ้าไม่มีใครมารับ ฮ่าๆๆ


สักพักน้อย อ้าวผู้หญิงหน้าคุ้นๆ น่านเพื่อนเรานี่หว่า หน้ากลับมาสดใสเหมือนเดิม อิอิ เพือนสามคนมารับที่หนามบินค่า เค้าพึ่งขับรถมาถึง โอ๊ยเหนื่อย ฮ่าๆๆ เพื่อนบอกว่าสามีโทรเช็คทุกๆสิบนาที ว่าถึงสนามบิน เจอตัวเมียชั้นอะยัง


พอเจอกันก้อพาไปรถ ขนข้าวของขึ้นรถเสร็จ ขับรถไป รู้สึกสับสนนิดหน่อยเพราะขับรถผิดข้างกะที่เมืองไทย อ่ะไม่เป็นไร เพื่อนๆใจดีพามาดูบ้านก่อนเลยยย บ้านนนนนนนของช้านนนนนนน เห็นแล้วอยากให้สามีอยู่ตรงนั้นด้วยจัง เพราะมันเป็นเวลาที่มีความสุขมาก เดินดูบ้านและรอบๆบ้าน รู้สึกอยากจะย้ายเข้าซะวันนั้นให้ได้เล๊ย พอดูบ้านหนำใจแล้วเพื่อนๆก้อพาไปบ้านเวนเดล ที่จะซุกหัวนอนหลายวัน ฮ่าๆ ที่บ้านเวนเดลจะมีห้องหนึ่งที่เป็นห้องของสามีอยู่คะ แต่ก้อใช้เป็นห้องรับแขกเวลามีคนมาเยี่ยม จากนั้นก้อไปซื้อเสต๊กแล้วไปทำทานที่บ้านไมค์กะจีน่า มาวันแรกประเดิมเสต๊กเลยเว้ย ฮ่าๆ ทานเสร็จแทบลืมตาไม่ขึ้น เวนเดลเลยพากลับบ้าน นอนน........แต่ตื่นมาคุยกะสามีตามเดิม ฮ่าๆๆๆ

Photobucket