My new friends...lol..

ช่วงปลายเดือน พ.ค ที่ผ่านมาเราไปรับเลี้ยงน้องหมาสองตัวค่ะ ไปรับเลี้ยงจากองค์กรอิสระที่เค้าดูแลหมาที่ถูกทิ้ง เพื่อรอคนมารับอุปการะ น้องหมาตัวผู้ชื่อ หมีพู เป็นหมาพันธุ์ผสมค่ะ คาดว่าเป็นลาบาดอผสม ไซบีเรีย ฮาสกี้ ส่วนน้องหมาตัวเมีย ชื่อน้องแคนดี้ค่ะ เป็นโดเบอเมน แต่มียีน อัลไปโน ซึ่งทำให้เป็นสีขาว แคนดี้อยู่ที่แสงแดดจัดๆไม่ได้นานคะ จะออกนอกบ้านเวลามีแดดต้องพ่นสเปรย์กันแดด กะ ใส่แว่นให้ มีน้องหมามาเลี้ยงทำให้วันแต่ละวันมีอรายทำมากขึ้นค่ะ
เกือบสิ้นเดือนสามีก้อกลับมาบ้านค่ะ น้องหมาเข้ากับสามีได้ดีมากค่ะ

It's the special day today....

วันนี้เป็นวันพิเศษของเราและสามีค่ะ วันครบรอบแต่งงาน ไม่มีอะไรจะบรรยายมากค่ะ เพราะเราสองคนรู้ว่าเรารู้สึกต่อกันยังงัย เพียงอยากจะขอบคุณสามีที่ทำให้ชีวิตเราสมบูรณ์ในแบบของเราเอง ขอบคุณที่ให้รู้ซาบซึ้งความหมายของครอบครัว และความรักความอบอุ่นที่มีให้กันทุกวัน


"I Could Not Ask For More"

Lying here with you
Listening to the rain
Smiling just to see the smile upon your face
These are the moments I thank God that I'm alive
These are the moments I'll remember all my life
I've found all I've waited for
And I could not ask for more

Looking in your eyes
Seeing all I need
Everything you are is everything in me
These are the moments
I know heaven must exist
These are the moments
I know all I need is this
I've found all I've waited for, yeah
And I could not ask for more

I could not ask for more than this time together
I could not ask for more than this time with you
And every prayer has been answered
Every dream I've had's come true
Yeah, right here in this moment
Is right where I'm meant to be
Here with you here with me
Yeah

These are the moments I thank God that I'm alive
These are the moments I'll remember all my life
I've found all I've waited for
And I could not ask for more

I could not ask for more than this time together
I could not ask for more than this time with you
And every prayer has been answered
Every dream I've had's come true
Yeah, right here in this moment
Is right where I'm meant to be
Oh, here with you here with me
No, I could not ask for more
Than this love you gave me
Cause it's all I've waited for
And I could not ask for more
No, yeah
No, I could not ask for more

I Could Not Ask For More - Edwin McCain

update my life for the past few months..

นานเลยนะที่เราไม่ได้มาอัพเดทบล็อกเลย โผล่มาทีก้อจะมายาวๆ ฮ่าๆ เดือนกุมพาฯและเดือนมีนาที่ผ่านมา พอมีอะไรมาเล่าให้ฟังบ้างค่ะ เริ่มเลยเนอะ

กุมพาพันธ์
ตั้งแต่ต้นเดือนเราก้อได้มีโอกาสเกาะไปทำงานกะสามีเราที่ฮุสตั้นค่ะ ทีแรกมีกำหนดไปแค่เดือนเดียว แต่ปรากฏว่ามันยาวกว่านั้น เพาะสามีเราต้องไปทำงานที่มาเลเซียกะทันหัน เราเลยต้องติดแหงะอยู่ที่โรงแรมคนเดียวประมาณอาทิตย์หนึ่ง รอสามีกลับมาตอนสิ้นเดือนกุมพาฯ
ก่อนที่จะรู้ว่าสามีต้องไปทำงานที่มาเลเซีย ก้อพากันไปเทียวที่ Space Center ค่ะ สนุกดีได้เห็นประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่งของอเมริกาด้วยค่ะ



ห้องสื่อสารควบคุมนาซ่า

ศูนย์ฝึกนักบินอวกาศ





หลังจากเชคเอ้าจากโรงแรมก้อย้ายไปอยู่กะเพื่อนสามีและครอบครัวเค้าชั่วคราว เค้าก้อน่ารักมากๆค่ะ ทั้งสามีภรรยาเลย ที่สำคัญเราได้อยู่ได้เล่นกะลูกชายวัย 10 เดือนของเค้าด้วยค่ะ น่ารักมากๆ แม่ของเด็กก้อกำลังท้องได้ประมาณ 7 เดือนด้วยค่ะ เหมือนเราได้ช่วยเลี้ยงน้องให้เค้าได้มั้งค่ะ แต่ก้อเหงาอีกล่ะ เพราะหลังจากนั้นไม่นานน้องและแม่ต้องกลับไปตุรกี เพื่อเตรียมคลอดสาวน้อยในท้อง เราก้อรอสามีกลับมาจากมาเลเซียที่บ้านเพื่อนต่อปายยยย
Berk and Mommy

Berk, James and Arzu

Houston


ไปกินข้าวที่ คีมา วันเกิดอาซู




มีนาคม-เมษายน
สามีกลับมาจากมาเลเซียช่วงกลางเดือนค่ะ โมโหมากเพราะดีเลย์หลายวันพอสมควร แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพราะยังงัยสามีก้อกลับมาแล้ว สะสางงานที่ออฟฟิตเสร็จสามีก้อพากลับบ้านค่ะ แต่ก่อนถึงบ้านก้อแวะเที่ยวที่ นิวออลีน กันก่อน สนุกสนานค่ะ เราไปท้าประลองกันหอยนางรม 15 โหล แต่ปรากกฎว่าได้แค่ครึ่งทางค่ะ ฮ่าๆๆๆ หายอยากหอยนางรมไปนานน












จากนั้นก้อขับรถกลับบ้านกันค่ะ คิดถึงบ้านมากๆๆๆ อยู่บ้านได้สัปดาห์กว่าๆก้อพากันไปแคมปิ้งใกล้บ้านค่ะ ทีแรกกะจะแคมป์แค่ สามวัน แต่เลยไปห้าวันค่ะ สะใจสุดๆ
อพาร์ทเม้นเคลื่อนที่ ฮ่าๆ






อยู่บ้านได้ไม่เท่าไหร่สามีก้อต้องไปทำงานอีกแล้วค่ะ อยู่บ้านคนเดียวต่อปายยยย

สองกายหัวใจเดียว...

เพลงนี้มีความหมายดีมากค่ะ ฟังทีรัยก้อให้นึกถึงชีวิตของตัวเองและสามี (ช่วงนี้มากแปลก ฮ่าๆ )






เพลง: สองกายหัวใจเดียว
ร้องโดย ปาน ธนพร แวกประยูร

ฉันก็เหมือนเรือ
ลำหนึ่งน้อยที่ลอยมา
คลื่นลมได้พัดพาจนไม่รู้ทิศใด
เหมือนนกที่บินไปกลางฝนอันโปรายปราย

ร่มไม้ให้พักกายฉันไม่มี
แล้วเมื่อพบเธอก็ได้พบกำลังใจ
ส่งเรือให้ลอยไปยังจุดหมายที่ดี
นกที่หลงทาง ที่อ่อนล้ามาแรมปี
ได้พักซักนาทีที่ใจเธอ

หนึ่งความรักที่ฉันมีหมดใจนี้ฉันให้เธอ
จบแล้วการเดินทางอันโดดเดี่ยว
จากวันนี้ทั้งสองกายเราจะใช้หัวใจเดียว
ต่อเติมความผูกพันที่เรามี
จะใช้ทุกนาทีเพื่อรักเธอ ( จะเดินเคียงข้างกันตลอดไป )

ไม่ได้คิดเลยว่าชีวิตจะมีวัน
เป็นคนที่สำคัญ เป็นที่รักของใคร
รักที่แท้จริงมีความหมายมากเพียงใด
เพิ่งรู้และเข้าใจเมื่อรักเธอ

หนึ่งความรักที่ฉันมีหมดใจนี้ฉันให้เธอ
จบแล้วการเดินทางอันโดดเดี่ยว
จากวันนี้ทั้งสองกายเราจะใช้หัวใจเดียว
ต่อเติมความผูกพันที่เรามี
จะใช้ทุกนาทีเพื่อรักเธอ ( จะเดินเคียงข้างกันตลอดไป )

เธอคือฝันที่สวยงามในชีวิตที่ฉันเจอ
ตอบแทนเธอด้วยสัญญาว่ารักนี้จะมีเพียงเธอ

หนึ่งความรักที่ฉันมีหมดใจนี้ฉันให้เธอ
จบแล้วการเดินทางอันโดดเดี่ยว
จากวันนี้ทั้งสองกายเราจะใช้หัวใจเดียว
ต่อเติมความผูกพันที่เรามี
จะใช้ทุกนาทีเพื่อรักเธอ ( จะเดินเคียงข้างกันตลอดไป )

จะรัก รักเธอ ทั้งหัวใจ สองคน สองกายหัวใจเดียว

I love you till the end.....

I love you til the end
by Pogues

I just want to see you
When youre all alone
I just want to catch you if I can
I just want to be there
When the morning light explodes
On your face it radiates
I cant escape
I love you till the end

I just want to tell you nothing
You dont want to hear
All I want is for you to say
Why dont you just take me
Where Ive never been before
I know you want to hear me
Catch my breath
I love you till the end

I just want to be there
When were caught in the rain
I just want to see you laugh not cry
I just want to feel you
When the night puts on its cloak
Im lost for words dont tell me
All I can say
I love you till the end

Love You Till The End.mp3 - P

Houston...Houston....

มาอัพเดทตัวเองหนน่อย ตอนนี้อยู่ที่ Houston, Taxas แล้วค่ะ เกาะสามีมาทำงานหนึ่งเดือนค่า ยังไม่มีรูปนะคะ ขอแปะไว้ก่อน อิอิ
Houseton ทำให้นึกถึงกรุงเทพฯค่ะ เมืองใหญ่มั่กๆ รถเยอะ ถนนนี่ม่ายต้องพูดถึง แต่อาหารการกินหลากหลายและเยอะมากค่ะ เมื่อคืนขอให้สามีพาไปกินอาหารไทย เหอๆ พึ่งเคยเข้าบุพเฟ่อาหารไทยครั้งแรกค่ะ อาหร่อยมั่กๆ กินซะจุกเชียว แถมได้ฟังเพลงไทย เจอคนไทยด้วย แต่ไม่เยอะหรอกค่ะ น้องบริกรเค้ามาทักน่ะเพราะเห็นรอยสักของสามีรส ฮ่าๆ

เอาแค่นี้ก่อนนะคะ วันนี้จะออกไปซื้อของจำเป็นมาไว้ใช้ซะหน่อย เด๋วต้องท่องที่อยู่ไว้ก่อน เด๋วกลับไม่ถูก เหอๆๆๆ

หิมะตกที่บ้านช้านนนนนนน....

อานะจะตื่นเต้นอารายกันนักหนากะแค่หิมะตกใช่ไหม ฮ่าๆ จริงๆแล้วมันนานๆตกทีน่ะค่ะ บางปีก้อไม่ตกเลยสามีบอกมาค่ะ รู้สึกว่ามันจะตกต้อนรับรสอีกแล้ว อิอิ แต่ว่ามันตกแค่วันเดียวค่ะ คอนบ่ายก้อละลายไปหมดแล้ว

คืนก่อนหิมะตกสามีตั้งนาฬิกาปลุกไว้ว่าจะตื่นกันแต่เช้าค่ะ แหม หนาวก้อหนาวอ่ะนะ แต่เพราะความตื่นเต้นอยากเห็นหิมะกัน วันรุ่งขึ้น(19 มกราคม 52)ก้อพากันแหกขี้ตาตื่นกันแต่เช้าทั้งพ่อ แม่ ลูก

เด็กสาวๆข้างบ้านก้อพากันออกไปเล่นหิมะกันแล้ว หิมะตกไม่ค่อยหนาหรอก แต่พอหอบๆกำๆปั้นๆโยนใส่กันได้ ลูกชายเริ่มก่อนเลยวิ่งออกไปปั้นหิมะก้อนเล็กๆมาขว้างใส่รส ฮ่าๆๆ รสก้อได้เสื้อโค้ด ถุงมือ ร้องเท้าวิ่งออกไปปั้นๆกำๆหิมะโยนใส่ลูก ฮ่าๆ สักพักพ่อก้อมาสบทบ เจ้าลูกชายโดนหิมะทั้งตัว งัยล่ะ อิอิ

สนุกได้สักพักก้อมีไอเดียไปตามหาหิมะที่หนากว่ากัน เอ้าไปก้อไป ขับรถไปเรื่อยๆหิมะมันก้อยังไม่หนา เลยพากันกลับบ้าน มานั่งดูหิมะตก กินข้าว ดูหนังกันที่บ้าน

ตกบ่ายๆ นั่งดูทีวีกันที่โซฟากันทั้งสามคน หลับกันทั้งหมดเลยคับ ฮ่าๆ ตลกมากๆ หลับเกือบจะเลยเวลาไปส่งลูกชายให้แม่เค้าแน่ะ

พอเราปส่งลูกชายเสร็จ อ่ะสองสามีภรรยาได้ทีไปกินบุปเฟ่สเต็กกันที่ Golden Corral จุกกันออกมาเลยคับ ฮ่าๆ รสล่อสเต็กไปสองชิ้นหญ่ายยกะอีกหลายอย่าง สามีก้อกินพอๆกัน ฮ่าๆ กลับถึงบ้านก้อนั่งจุกต่อ ฮ่าๆ ตามมาด้วยง่วง แล้วก้อเข้านอนตามระเบียบ อิอิ

รูปจากวันหิมะตกค่า

ลูกชาย ซีดมากๆ เด๋วจะพาไปตากแดดสักวัน

จากหน้าบ้านค่ะ ขาววววเชียว





ถนนสายเดิม หน้าบ้าน


พุ่มไม้ใต้ขอบหน้าต่างหน้าบ้าน


นกน้อยมาเยี่ยม


น้ำแข็งย้อยยย



ย้อยจากรางน้ำ

สวัสดีปีใหม่.....แคมปิ้งเคาท์ดาวปีใหม่ค่า

หลังจากที่คริสมาสผ่านไปไม่กี่วันปีใหม่ก้อมาเร็วมากค่ะ แรกๆก้อไม่มีแผนจะไปไหนหรอกค่ะแต่เพื่อนสามีอีเมลมาชวนไปแคมปิ้ง น่านนนน....เข้าแนวทั้งสองคนเลยก้อเลยตกลงว่าไปกัน เสียดายที่ลูกไม่ได้ไปด้วย ว่าแล้วสามีก้อจัดการจัดเข้าของไปแคมปิ้งค่ะ รสมีหน้าที่เตรียมเสบียงอย่างเดียว ฮ่าๆๆ เมนูที่เอาไปทำก้อ ข้าวเหนียวนึ่ง ลาบ (เตรียมอุปกรณ์ไปด้วย) ผัดไทย ต้มยำ ไข่เจียวหมูสับ ฮ่าๆ

เริ่มวันด้วยกันไปส่งลูกให้แม่เค้าค่ะ จากนั้นก้อออกเดินทางเลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ สองชั่วโมงครึ่งค่ะ ที่ไปแคมปิ้งคือ Table Rock ค่ะ หลงทางกันนิดหน่อย ฮ่าๆ แต่ก้อถึงค่ะ พอถึงแคมป์ไซด์ เพื่อนสามีก้อถึงนานแล้วค่ะ จัดการจัดของเค้าเรียบร้อยแล้ว จริงๆเค้ามี VW bus ค่ะ น่ารักเชียว

สามีก้อจัดการกางเต้นที่นอน จัดของต่างๆนาๆ ส่วนนังเมียนั่งดู ฮ่าๆ มันหนาว อีกอย่างไม่อยากเกะกะสามีด้วย อิอิ คืนแรกคืนคืนวันที่ 31 ค่ะ นั่งหน้ากองไฟ กินข้าว ดื่มไวน์กัน (หลายขวด ฮ่าๆ) พอเที่ยงคืนก้อมีคนเค้านับเคาท์ดาวกัน แล้วก้อตะโกน Happy New Year! เออ หนุกไปอีกแบบ อิอิ

เป็นปีแรกทีได้อยู่ด้วยกันในวันปีใหม่นะคะ ดีใจมากที่ได้พูดสวัสดีปีใหม่ตัวต่อตัว อิอิ หนาวววมากค่ะ แต่ก้ออุ่นที่สามีอยู่ใกล้ๆ อิอิ


วันรุ่งขึ้นตืนกันซะสายเลย ฮ่าๆ กินข้าว แล้วก้อไปซื้อฟืนเพิ่ม แล้วก้อแวะกินฮอทดอกด้วย อันนี้ขาดไม่ได้ คืนวันปีใหม่ก้อไม่มีอารายมากค่ะ นั่งหน้ากองไฟ คุยกันเหมือนเดิม แต่ไม่มีไวน์ ฮ่าๆ คืนนี้เข้านอนเร็วค่ะ เพราะเพือนสามีต้องกลับไปทำงานแต่เช้ามากๆ

พอเช้ามา ฝนตกค่ะ ต้องแหกขี้ตากันมาเก็บของขึ้นรถ ทีแรกกะจะไปแคมปิ้งที่อื่นกันต่อ แต่ฝนตกเลยไม่รู้จะทำไง สามีเลยพาไปหาของกินก่อน แล้วก้อขับรถขึ้นไป Blue Ridge Parkway แต่ปิดค่ะ ปิดเพราะอากาศไม่เป็นใจ ไม่รู้ทำงัยสามีเลยขับรถพาไปเที่ยวเรื่อยๆ แวะตามเมืองต่างๆ หนุกหนานสิค่ะ แต่รู้สึกจะเมารถเพราะมันโค้งเยอะเหลือเกิน แต่ต่อมาก้อรู้สึกดีขึ้นค่ะ สามีพาไปเที่ยวที่ Cherekee ค่ะ เป็นเขตของอินเดีย มีคาสิโนด้วย อิอิ เดินช้อปกันไปเรื่อยๆค่ะ เราไม่แน่มจว่าจะค้างคืนอีกหนึ่งคืนที่ไหนสักที่หรือกลับบ้าน

สรุปตัดสินใจกลับบ้านกันค่ะ แต่แวะทานสเต็กกันก่อน จำชื่อร้านม่ายได้แต่หร่อยมากค่ะ ขับรถประมาณสามชั่วโมงกว่าๆก้อถึงบ้านค่ะ ถึงบ้านประมาณสามทุ่มกว่าๆ ไม่เอาของออกจากรถกันเลย อาบน้ำ มานั่งดูทีวีกัน แล้วก้อเข้านอน

รสชอบมากค่ะ ได้ไปดูวิวสวยๆ กินของอร่อยๆ ที่สำคัญมีสามีไปด้วย อิอิ

เอารูปมาฝากค่า

Table Rock


VW bus ของเพื่อนสามี


เต้นท์ของเราสองคน อิอิ


รอบๆแคมป์ไซส์ค่ะ


วิวสวยๆค่ะ